สินค้าถูกจองเต็มหมดแล้ว ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 02-277-9999

Finding Lavender ตุรกี 9 วัน 6 คืน โดยสายการบิน Turkish Airlines (TK)

  • ทัวร์ : Europe [ ยุโรป ]
  • เที่ยวเมือง : Istanbul (อิสตันบูล)
  • รหัสโปรแกรม : T6074
  • Code : QQGO3IST-TK003
  • ประเภททัวร์ : ทัวร์ต่างประเทศ
  • ระยะเวลา : 9 วัน 6 คืน
ไฮไลท์ทัวร์ Highlight
อิสตันบูล|พระราชวังโดลมาบาเช|ชานัคคาเล่|ม้าไม้จำลองเมืองทรอย|เพอร์กามัม|คูซาดาสึ|ทุ่งลาเวนเดอร์|ปามุคคาเล|ปราสาทปุยฝ้าย|เมืองโบราณเฮียราโพลิส|คอนย่า|คัปปาโดเกีย|นครใต้ดิน|พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่|อังการ่า|สุสานอตาเติร์ก|ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส|ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต|ฮิปโปโดม|สุเหร่าสีน้ำเงิน|สุเหร่าเซนต์โซเฟีย
รายละเอียดโปรแกรม
วันที่ 1

กรุงเทพ – อิสตันบูล

20.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 8 เคาน์เตอร์ สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
23.30 น. ออกเดินทางสู่ประเทศตุรกี ด้วยเที่ยวบิน TK069
วันที่ 2

อิสตันบูล – พระราชวังโดลมาบาเช – ชานัคคาเล่

06.30 น. ถึงสนามบินเมืองนานาชาติอิสตัลบูล ประเทศตรุกี (Turkey) (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางเข้าชมพระราชวังโดลมาบาเช (Dolmabahce) สร้างโดยสุลต่านอับดุลเมจิต ในปี ค.ศ. 1843-1856 ยุคปลายอาณาจักรออตโตมัน เป็นพระราชวังสุดหรูหราอลังการที่ทุ่มสร้างคิดเป็นเงินในปัจจุบันถึงประมาณพันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างถึง 12 ปี ผสมผสานศิลปะแบบพระราชวังยุโรปกับแบบอาหรับอย่างสวยงาม
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองชานัคคาเล่ (Canakkale) โดยนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามช่องแคบดาร์ดะเนลส์ (Dardanelles) เป็นช่องแคบ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ที่กั้นระหว่างคาบสมุทรกัลลิโพลี (Gallipoli) ของตุรกีส่วนที่อยู่ในทวีปยุโรปกับตุรกีส่วนที่อยู่ในทวีปเอเชีย เชื่อมทะเลมาร์มะรา (Sea of Marmara) กับทะเลอีเจียน (Aegean)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก CANAKKALE KOLIN HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 3

ชานัคคาเล่ – ม้าไม้จำลองเมืองทรอย – เพอร์กามัม – คูซาดาสึ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชมและถ่ายรูปคู่กับม้าไม้จำลองแห่งทรอย (Hollywood of Troy) ม้าไม้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดจากมหากาพย์ภาพยนตร์เรื่องทรอย (Troy) เป็นหนึ่งในอาวุธยุทโธปกรณ์อันชาญฉลาดในสมัยนั้นที่ชาวกรีกใช้อุบายส่งม้าไม้ให้เมืองทรอยเพื่อเป็นของกำนัล แต่ได้แอบบรรจุคนมาในม้าไม้เพื่อเข้ามาเปิดประตูเมืองทรอย ให้ทหารเข้าเมืองจนทำให้เมืองทรอยล่มสลาย ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลการศึกของนักรบโบราณ นำท่านเดินทางสู่ เมืองเพอร์กามัม (Pergamon) ตั้งอยู่ในบริเวณอะนาโตเลียห่างจากทะเลอีเจียนประมาณ 30 กม.ทางด้านเหนือของแม่น้ำไคซูส ผ่านชมเมืองเพอร์กามัม เป็นเมืองโบราณของกรีกที่มีความสำคัญของพวกเฮเลนนิสติก ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ วิหารอะโครโปลิส (Acropolis) นครบนที่สูง เป็นโครงสร้างฐานในการป้องกันเมืองของอาณาจักรกรีกและโรมัน ซึ่งผู้ตั้งถิ่นฐานในสมัยนั้นมักเลือกที่สูง ซึ่งมักจะเป็นเนินเขาที่ด้านหนึ่งเป็นผาชัน และกลายเป็นศูนย์กลางของมหานครใหญ่ ที่เติบโตรุ่งเรืองอยู่บนที่ราบเบื้องล่างที่รายล้อมป้อมปราการเหล่านี้ โดยเมืองด้านบน (upper town) จะเป็นพื้นที่วิหารบูชาเทพเจ้า สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พระราชวังและพื้นที่ใช้งานต่างสำหรับกษัตริย์และชนชั้นสูงเท่านั้น ส่วนประชาชนคนธรรมดาทั่วไปจะอยู่ในส่วนของเมืองด้านล่าง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย ออกเดินทางไป เมืองคูซาดาสึ (Kusadasi) นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองโบราณเอเฟซุส (City of Ephesus) ที่ยิ่งใหญ่และงดงามจนกระทั่งจารึกว่า “มหานครแห่งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเซีย” เมืองโบราณที่สมบูรณ์และมั่งคั่งที่สุด ถนนทุกสายปูด้วยหินอ่อน ชมห้องสมุดเซลซุส (The Library of Celsus) ห้องสมุดแห่งนี้มีทางเข้า 3 ทาง โดยบริเวณประตูทางเข้ามีรูปแกะสลักเทพี 4 องค์ประดับอยู่ ได้แก่ เทพีแห่งปัญญา เทพีแห่งคุณธรรม เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และเทพีแห่งความรู้ รูปแกะสลักเทพีทั้ง 4 องค์นี้เป็นของจำลอง ส่วนของจริงนักโบราณคดีชาวออสเตรียได้นำกลับไปออสเตรียและตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงเวียนนา แวะชมโรงละครเอเฟซุส ซึ่งจุคนได้ประมาณ 30,000 คน เป็นโรงละครกลางแจ้งที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโรงละครโบราณในตุรกี มีลานแสดงตรงกลางแวดล้อมด้วยที่นั่งชมไล่ระดับขึ้นไป ปัจจุบันยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่และมีการจัดการแสดงแสงสีเสียงบ้างเป็นครั้งคราว ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ หลังจากนั้นนำท่านเยี่ยมชมโรงงานหนังชั้นนำ Leather Fashion House โรงงานผลิตเสื้อหนังคุณภาพดี ให้ท่านมีเวลาเลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์เสื้อหนัง ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเข้าชมบ้านของพระแม่มารี (House of Virgin Mary) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมาอาศัยและสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมันชื่อ แอนนา แคเทอรีน เอมเมอริช Anna Catherine Emmerich ค.ศ. 1774-1824

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ร้านเตอร์กิช ดีไลท์ (Turkish Delight Shop) คือขนมหวานขึ้นชื่อของประเทศตุรกี ซึ่งคนท้องถิ่นเรียกกันว่าโลคุม (Lokum) เป็นขนมหวานทรงลูกเต๋าที่ประกอบขึ้นจากแป้งและน้ำตาล มักจะมีอัลมอนด์ วอลนัท ถั่วพิสตาชิโอ และแมคคาเดเมียผสมเข้าไปด้วย โดยส่วนมากหน้าตาจะมีสีชมพูเข้ม แต่ก็ดูจางลงไปทันทีเมื่อเสิร์ฟกับน้ำตาลไอซิ่งที่คลุกเคล้าประหนึ่งแป้งฝุ่น มีรสหวาน สอดแทรกด้วยความกรอบและมันของถั่วคุณภาพดี ชาวตุรกีนิยมทานคู่กับชาร้อน หรือ ชากลิ่นแอปเปิล
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก SEVEN 4 LIFE หรือเทียบเท่า
วันที่ 4

คูซาดาสึ – ทุ่งลาเวนเดอร์ - ปามุคคาเล – ปราสาทปุยฝ้าย – เมืองโบราณเฮียราโพลิส

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ โรงงานผลิตเครื่องหนัง (Leather Factory) ซึ่งประเทศตุรกีเป็นประเทศที่มีฐานการผลิตเครื่องหนังคุณภาพสูงที่สุดอันดับต้นๆ ของโลก ทั้งยังผลิตเสื้อหนังให้กับ แบรนด์ดังในอิตาลี อาทิ Versace, Prada, Michael Kors อีกด้วย อิสระให้ท่านเลือกชมผลิตภัณฑ์จากเครื่องหนัง และ สินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางสู่ทุ่งลาเวนเดอร์ (Lavender) บริเวณหมู่บ้าน Kuyucak ชมความสวยงามของทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่มีความกว้างถึงกว่า 30 ตารางกิโลเมตร ซึ่งโดยปกติจะออกดอกบานสะพรั่งให้ท่านได้ชม ในช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม ของทุกปี (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) โดยดินแดนแถบนี้ถือเป็นพื้นที่หลักในการปลูกดอกลาเวนเดอร์ กว่า 90% ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในประเทศ ให้เวลาท่านอิสระถ่ายรูปกับทุ่งลาเวนเดอร์ ตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) หรือปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) ซึ่งเกิดจากน้ำแร่ร้อนที่มีแร่ธาตุแคลเซี่ยม คาร์บอเนต มาตกตะกอน เกิดเป็นลักษณะหน้าผา ซ้อนกันเป็นชั้นน้ำตก มีสีขาวคล้ายกับสร้างมาจากปุยฝ้าย ซึ่งน้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน ย้อยเป็นรูปร่างต่างๆอย่างสวยงามและน่าอัศจรรย์ น้ำแร่นี้มีอุณหภูมิตั้งแต่ประมาณ 35 – 100 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้ จึงได้สร้างเมืองเฮียราโพลิสล้อมรอบ จากนั้นนำท่านชมเมืองโบราณเฮียราโพลิส (Hierapolis) ในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1แห่งแพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสต์กาล สถานที่แห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งหลังปี ค.ศ 1334 จึงไม่มีคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางของเฮียราโพลิสเป็นบ่อน้ำที่ศักสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในโรงแรมปามุคคาเล สถานที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปามุคคาเล โรงอาบน้ำโรมัน โบสถ์สมัยไบแซนไทน์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก ADEMPIRA หรือเทียบเท่า
วันที่ 5

ปามุคคาเล – คอนย่า – คัปปาโดเกีย – นครใต้ดิน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางสบายๆที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของประเทศตุรกี จากนั้นนำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า (Mevlana Museum) ซึ่งก่อตั้งขึ้นนปี ค.ศ.1231 โดยเมฟลาน่า เจลลาเลดดิน รูบี ซึ่งเชื่อกันว่าชายคนนี้เป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาอิสลามทำสมาธิโดยการเดินหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ย ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เป็นสุสานของเมฟลาน่า เจลาลุคดิน รูมี่อาจารย์ทางปรัชญาประจํา ราชสํานักแห่งสุลต่านนอาเลดนิ เคย์โคบาท ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียว สดใส ภายในประดับฝาผนังแบบมุสลิม และยังเป็นสุสานสําหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดา และบุตรของเมฟลาน่าด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) ชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากลาวาภูเขาไฟที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง แล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวลาผ่านไป พายุ ลม ฝน และหิมะได้เป็นกัดเซาะแผ่นดิน มาเรื่อยๆ ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ เกิดเป็นภูมิประเทศที่งดงาม แปลกตาและน่าอัศจรรย์ ดั่งสวรรค์บนดิน จนได้ชื่อว่า “ดินแดนแห่งปล่องนางฟ้า” และได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี จากนั้นนําท่านเดินทางสู่นครใต้ดิน (Underground City) ซึ่งเกิดจากการขุดเจาะพื้นดินในยามสงครามในอดีต เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบทั้งห้องนอน ห้องครัว ห้องนํ้า ห้องอาหาร ฯลฯ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ชมระบำหน้าท้อง (Belly Dance) และการแสดงพื้นเมืองต่างๆ ของตุรกีอันลือชื่อที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก DREAM CAVES หรือเทียบเท่า
วันที่ 6

คัปปาโดเกีย – OPTIONAL TOUR BALLOON – พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ – อังการ่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

** สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความงามของเมืองคัปปาโดเกีย จะต้องออกจากโรงแรม 05.00 น. ชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง (ค่าขึ้นบอลลูนไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ราคา 300-350 USD ต่อ 1 ท่าน รบกวนติดต่อสอบถามแจ้งความจำนงค์กับหัวหน้าทัวร์โดยตรง ทางบริษัทเป็นเพียงตัวกลางในการให้ข้อมูลและคำแนะนำเท่านั้น) ** นำท่านเดินทางสู่เมืองเกอเรเม (Goreme) นำท่านเชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง (Goreme Open-Air Museum) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่โรงงานทอพรม(Carpet Factory) คุณภาพดีของประเทศตุรกี ให้เวลาท่านเลือกซื้อตามอัธยาศัย จากนั้นชมโรงงานเซรามิค และโรงงานจิวเวอรี่ อิสระเลือกซื้อของตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองอังการ่า (Ankara) เป็นเมืองหลวงของประเทศตุรกีตั้งอยู่บนฝั่งทวีปเอเชีย ชาวตุรกีจะเรียกดินแดนฝั่งเอเชียว่าอนาโตเลีย และอังการ่าเป็นเมืองใหญ่ อันดับสองรองจากอิสตันบูล ระหว่างทางแวะถ่ายรูป ทะเลสาบนํ้าเค็ม (SALT LAKE) ทะเลสาบนํ้าเค็มที่ใหญ่อันดับสองของตุรกีเมื่อหน้าร้อนมาถึงนํ้าจะเหือดแห้งเป็นแผ่นหนา มีเวลาให้ท่านเก็บภาพความประทับใจ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก NEW PARKหรือเทียบเท่า
วันที่ 7

อังการ่า – สุสานอตาเติร์ก – อิสตันบูล – ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส - ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านถ่ายรูปกับ Kocatepe Mosque Ankara สร้างในศิลปะนีโอออตมาน เมื่อปี 1967 และถือเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดแห่งกรุงอังการ่า จากนั้นนำเดินทางสู่สุสานอตาเติร์ก (Ataturk Mausoleum) เป็นอนุสรณ์สถานและสุสานของ Mustafa Kemal Ataturk ซึ่งเป็นผู้นำในสงครามกู้อิสรภาพของตุรกีหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐตุรกี และประธานาธิบดีคนแรกเป็นสุสานของ Ismet Inonu ประธานาธิบดีคนที่ 2 ของตุรกีด้วย อนุสรณ์สถานออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1944-1953 ในธนบัตรตุรกีที่พิมพ์ระหว่างปี 1966-1987 และ 1999-2009 จะเป็นรูป Anitkabir ด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองอิสตันบูล (Istanbul) เมื่องสำคัญอันดับ 1 ของประเทศ เดิมชื่อ คอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี จากนั้นนำท่านล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black Sea) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (Sea of Marmara) ความยาวทั้งสิ้น ประมาณ 32 กิโลเมตร ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความ สวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ข้างทางไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาชเช่หรือบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐี ซึ่งล้วนแล้วแต่สวยงามตระการตาทั้งสิ้น นำท่านแวะตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต (Spice Market) หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันขึ้นชื่อของตุรกี อย่าง แอปริคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก ISTANBUL LA QUINTA HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 8

อิสตันบูล– ฮิปโปโดม – สุเหร่าสีน้ำเงิน – สุเหร่าเซนต์โซเฟีย - สนามบิน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่จัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด (Sultan Ahmed Complex) มีชื่อเรียกโบราณคือ ฮิปโปโดม (Hippodrome) ตั้งอยู่หน้าสุเหร่าสีน้ำเงิน เดิมเป็นลานแข่งรถม้าและศูนย์กลางเมืองในยุคไบแซนไทน์ นำชมสุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทางศาสนา ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่ง ชื่อนี้ได้มาจากกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านใน และถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ซึ่งเคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์ โดยสุลต่านอาห์เหม็ตที่ 1 ค.ศ. 1609 ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 7 ปี นำท่านชมสุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือชื่อในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) เดิมเคยเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนา นิกายออโธดอกซ์ ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่า ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง และ ถือเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง จุดเด่นอยู่ที่ยอดโดมขนาดมหึมากลางวิหาร และนับเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย จากนั้นเดินทางสู่ตลาดในร่ม (Kapali Carsisi หรือ Covered Bazaar) หรือแกรนด์บาซาร์ (Grand Bazaar) เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ด ที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน ขายของสารพัด ตั้งแต่ทองหยอง เครื่องประดับ พรม เครื่องเงิน เครื่องหนัง กระเบื้อง เครื่องทองแดง ทองเหลือง สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก ฯลฯ ที่นี้เป็นที่นิยม ของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จากนั้นนำท่านชมพระราชวังทอปกาปึ (Tokapi Palace) ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมัน ปัจจุบันพระราชวังทอปกาปิกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บมหาสมบัติอันล้ำค่า เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบินเพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
16.35 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสารเที่ยวบินที่ TK064
วันที่ 9

อิสตันบูล - กรุงเทพฯ

06.15 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
มื้ออาหาร
วันที่ เช้า กลางวัน ค่ำ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
รายละเอียดและเงื่อนไข

1.ชำระเงินมัดจำท่านละ 30,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น 
***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***
2.ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า
ภายใน  3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
3.เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
4.หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
5.การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
6.หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน  การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

1.ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์    อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
2.ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3.ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ 
4.ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
5.ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
6.ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
7.ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท 
ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
** ลูกค้าท่านใดสนใจ...ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ ** 
-    เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]
-    เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน] 
**ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี **  
[รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
8. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)

1.ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
2.ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 25 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
3.ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
4.ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
5.ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น  (36 USD/ต่อท่าน) 
6.ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย ( 27 USD/ต่อท่าน)