สินค้าถูกจองเต็มหมดแล้ว ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 02-277-9999

CITIES OF THE RISING STAR ออสเตรีย เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ 11 วัน 8 คืน โดยสายการบิน EVA AIR (BR)

  • ทัวร์ : Austria [ ออสเตรีย ]
  • เที่ยวเมือง : Lille (ลีลล์) Paris (ปารีส) Amsterdam (อัมสเตอร์ดัม) Brussels (บรัสเซลส์) Lucerne (ลูเซิร์น) Vienna (เวียนนา) Fussen (ฟุสเซ่น)
  • รหัสโปรแกรม : T6367
  • Code : QQGO3VIE-BR009
  • ประเภททัวร์ : ทัวร์ต่างประเทศ
  • ระยะเวลา : 11 วัน 8 คืน
ไฮไลท์ทัวร์ Highlight
เวียนนา | พระราชวังเชินบรุนน์ | ฮัลสตัท | ล่องเรือทะเลสาปฮัลสตัท | ฟุสเซ่น | ปราสาทนอยชวานสไตน์ | ทิทิเซ่ | น้ำตกไรน์ | ซุก | ลูเซิร์น | ยอดเขาทิตลิส | โบน | ปารีส | หอไอเฟล | ย่านมงมาร์ต | ลีลล์ | บรัสเซลส์ | อัมสเตอร์ดัม | ล่องเรือหลังคากระจก | สถาบันสอนการเจียระไนเพชร | ล่องเรือหลังคากระจก | หมู่บ้านกังหันลมซานสคันส์
รายละเอียดโปรแกรม
วันที่ 1

กรุงเทพฯ

23.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบิน อี.วี.เอ.แอร์ ประตู 8 แถว T พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
วันที่ 2

กรุงเทพฯ – เวียนนา – พระราชวังเชินบรุนน์

02.20น. ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา โดยสายการบิน อี.วี.เอ. แอร์ไลน์ (EVA Airline) เที่ยวบินที่ BR 061
08.35 น. เดินทางถึง สนามบินเวทชาท กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) หลังจากนั้นผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง เดินทางสู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย นำท่านนั่งรถชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955, ผ่านพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากนั้นเชิญช้อปปิ้งสินค้าเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ หรือสินค้านานาชนิด อาทิเช่น Louis Vitton,Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer ,สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara ,H&M ฯลฯ และสินค้าของฝาก เช่น ช๊อคโกแลตโมสาร์ท ในย่านถนนคาร์นท์เนอร์ (Karntnerstrabe) ใจกลางกรุงเวียนนา
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย จากนั้นนำท่านเข้าชมความงดงามของพระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮัปสเบิร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปีค.ศ.1744 – 1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรงและพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง และสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายของฝรั่งเศส
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ซี่โครงหมู)
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก H+ HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 3

เวียนนา – ฮัลสตัท – ล่องเรือทะเลสาปฮัลสตัท - ฟุสเซ่น

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ออกเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวยที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีที่มีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบที่สวยงามถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ปลาจากทะเลสาบฮัลสตัท)
บ่าย จากนั้นนำท่านล่องเรือทะเลสาปฮัลสตัทและชมความสวยงามของเมืองฮัลสตัทที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น UNESCO WORLD HERITAGE VIEW ***การล่องเรือ หากไม่สามารถล่องเรือได้ในวันนั้นๆ ทางบริษัทขอคืนเงินให้ ท่านละ 5 ยูโร*** อิสระให้ท่านเดินเล่นชมความสวยงามของเมืองและเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองฟุสเซ่น (Fussen) เมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เป็นเมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติกที่เคยมีความรุ่งเรืองในอดีตตั้งแต่ยุคโรมัน และได้ใช้เมืองนี้เป็นจุดแวะพักขนถ่ายสินค้า และซื้อขายเกลือมาแต่โบราณ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก LUITPOLDPARK หรือเทียบเท่า
วันที่ 4

ฟุสเซ่น – ปราสาทนอยชวานสไตน์ – ทิทิเซ่ – ชมความงามป่าดำ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านสู่เมืองโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย จากนั้นเดินทางขึ้นปราสาทเพื่อเข้าชมความสวยงามของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) นำชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว ชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยการออกแบบของริชาร์ด ว้ากเนอร์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทรงโปรดปรานยิ่ง *** หากคณะไม่สามารถเข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คืนเงินหน้างานท่านละ 13 ยูโร และถ่ายรูปด้านนอกกับปราสาทนอยชวานสไตน์ เป็นการทดแทน ***
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง(ขาหมูเยอรมัน)
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองทิทิเซ่ (Titisee) เมืองริมทะเลสาปที่ตั้งอยู่ในเขตป่าดำ (Black Forest) ให้ท่านได้อิสระชมความงามของบ้านเรือน ชมทัศนียภาพของป่าสนอยู่บนภูเขา ที่เรียกว่า แบล็กฟอเรสต์ สถานที่อันเป็นต้นกำเนิดนาฬิกากุ๊กกู
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ไส้กรอกเยอรมัน)
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก MARITIM HOTEL หรือเทียบเท่า ** ในกรณีที่โรงแรมเมือง Titisee เต็มจะย้ายไปนอนเมืองข้างเคียงแทน**
วันที่ 5

ทิทิเซ่ – น้ำตกไรน์ – ซุก – ลูเซิร์น

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ทางเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ติดกับพรมแดนเยอรมนี โดยสถาปัตยกรรมของบ้านเรือนในเมืองนั้นตกแต่งด้วยศิลปะแบบเรเนอซองซ์และศิลปกรรมแบบเฟรสโกรวมกับภาพวาดตามผนังของอาคารต่างๆที่บอกเรื่องราวของชาวเมืองอย่างสวยงาม นอกจากนั้นแล้วเมืองนี้ยังมีชื่อเสียงจากการที่เป็นที่ตั้งของน้ำตกไรน์ (Rhine Fall) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป นำท่านชมน้ำตกไรน์ (RhineFall) น้ำตกที่ใหญ่สวยงามและตื่นตาตื่นใจซึ่งเกิดจากแม่น้ำไรน์ทั้งสายไหลผ่านหน้าผากว้าง 150 เมตร จึงเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปและได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในยุโรปกลางด้วย อิสระให้ท่านได้ชื่นชมความงามของน้ำตกและถ่ายรูปตามอัธยาศัย

เดินทางต่อสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมือง นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักรวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ร้านอาหารระดับ Michelin guide)
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้นออกเดินทางสู่กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก IBIS STYLE LUZERN หรือเทียบเท่า
วันที่ 6

ลูเซิร์น – ยอดเขาทิตลิส - โบน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองแองเกิ้ลเบิร์ก (Engelberg) เพื่อขึ้นกระเช้าลอยฟ้าทันสมัยระบบใหม่ล่าสุดหมุน 360 องศา รอบตัวเอง ชมทัศนียภาพอันตระการตาได้รอบทิศทางตามเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาทิตลิส (Titlis) เข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Grotto) ที่ไม่เคยละลาย เชิญเพลิดเพลินสนุกสนานกับการเล่นหิมะบนลานสกี สุดแสนประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ชมทิวทัศน์ของยอดเขาต่างๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอันขาวโพลนสร้างความงดงามให้กับขุนเขาเป็นอันมาก ให้เวลาท่านเดินข้าม" The TITLIS Cliff Walk " สะพานแขวนที่ตั้งอยู่สูงที่สุดของทวีปยุโรป ที่ความสูง 3,041 เมตรจากระดับน้ำทะเล สะพานมีความยาว 100 เมตร ท่านจะได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ อันสวยงามแบบกว้างไกลสุดสายตา (สะพานแขวนอาจจะปิด ในกรณีถ้าสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ชีสฟองดูว์)
บ่าย เดินทางสู่เมืองโบน (Beaune) เมืองที่ได้ชื่อว่าหนึ่งในศุนย์กลางค้าไวน์ที่สำคัญของประเทศฝรั่งเศส ได้ชื่อว่าเป็น Capital of Burgundy wines และถือเป็นเมืองเก่าแก่ และสำคัญในประวัติศาสตร์ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาแห่งเขต Cote d’Or ในท่านชื่นชมธรรมชาติระหว่างทางท่านจะผ่านไร่องุ่นที่ถูกปลูกไว้ 2 ข้างทาง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก MERCURE BEAUNE หรือเทียบเท่า
วันที่ 7

โบน – ปารีส - หอไอเฟล

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่มหานครปารีส (Paris) เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแลวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก ที่ทรงด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำเที่ยวชมความงดงามของมหานครปารีส ผ่านชมความสวยงามของแม่น้ำแซนน์ที่ตัดผ่านใจกลางกรุงปารีส ข้ามสะพานสู่ เกาะเดอ ลา ซิเต้ กลางแม่น้ำแซน ผ่านลานประวัติศาสตร์จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde) ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอังตัวเนต ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยกิโยตินในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส แล้วผ่านเข้าสู่ถนนสายโรแมนติกชองป์เอลิเซ่ (Champs Elysees) ซึ่งทอดยาวจากจัตุรัสคองคอร์ดตรงสู่ประตูชัยนโปเลียน นำชมและถ่ายรูปคู่กับประตูชัยนโปเลียน (Arc de Triomphe) สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียนในศึก เอาส์เตอร์ลิทซ์ในปี1805 โดยเริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1806 แต่มาแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1836 แล้วจากนั้นนำถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหอไอเฟล (Tour Eiffel) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นสูงตระหง่านคู่นครปารีสด้วยความสูงถึง 1,051 ฟุต ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1889 ที่บริเวณจัตุรัสทรอคคาเดโร่ จากนั้นพาท่านสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยนักชอปปิงจากทั่วทุกมุมโลกในห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางกรุงปารีสที่แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) หรือท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของสวิสจากร้าน Bucherer ร้านดังของสวิส ที่มีสาขาเปิดอยู่ใจกลางกรุงปารีส โดยมีสินค้ามากมาย อาทิเช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (หอยเอสคาโก้)
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก MERCURE PARIS IVRY QUAI DE SEINE หรือเทียบเท่า
วันที่ 8

ปารีส – ย่านมงมาร์ต - ทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บนหอไอเฟล - ลีลล์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ย่านมงมาร์ต (Montmartre) ซึ่งเป็นย่านศิลปินมากว่า 200 ปีแล้ว สัมผัสกับมนต์เสน่ห์และกลิ่นอายของวันวานที่ศิลปะในฝรั่งเศสรุ่งเรืองถึงขีดสุด ชมวิวสวยของนครปารีสจากด้านหน้าบันไดของวิหารสเกรเกอร์ (Basilica of Sacre Coeur) วิหารสีขาวที่เป็นสัญญาลักษณ์อันโดดเด่นของปารีส แล้วเชิญสำรวจร้านกาแฟ หรือชมเหล่าศิลปินที่วาดรูปอยู่ใกล้ๆ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บนหอไอเฟลพร้อมชมวิวกรุงปารีสอันแสนโรแมนติค (อาหารพื้นเมือง) (ในกรณีที่ร้านอาหารบนหอไอเฟลเต็มทางบริษัทขอย้ายไปทานที่ร้าน Le Ciel de Paris Restaurant แทน)
บ่าย นำท่านถ่ายรูปคู่กับพิพิธภัณฑ์ลูฟท์ (Louvre Museum) พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงและยังมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในอดีตที่นี่เคยเป็นพระราชวังหลวงของราชวงศ์กาเปเซียง ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นที่จัดแสดงผลงานกว่า 35,000 ชิ้น ในพื้นที่กว่า 60,600 ตารางเมตร และมีผู้เข้าเยี่ยมชมมากถึง 9.7 ล้านคนต่อปี และที่นี่ยังเป็นที่จัดแสดงของภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ภาพโมนาลิซา (Monalisa) ของเลโอนาร์โด ดาวินชี ศิลปินผู้มีชื่อเสียงชาวอิตาลี อีกด้วย จากนั้นนำท่านเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลกอย่าง ลา ซามาริแตง (La Samaritaine) ที่ก่อตั้งในปี 1870 โดย Ernest Cognacq และ Marie-Louise Jaÿ โดยสถาปนิกผู้ออกแบบคือ Frantz Jourdain โดยเป็นอาคารเก่าแก่คลาสสิกที่ถูกขึ้นทะเบียน Monument Historique ให้เป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1990 พบกับความหรูหร่าโดดเด่นทั้งภายนอก และ ภายในอาคารของห้างด้วยศิลปะหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ภาพวาดฝาผนัง , แผงประดับอาคารที่แสนวิจิตร มีเสน่ห์เฉพาะตัว มีการผสมผสานระหว่างศิลปะอาร์ตนูโว (Art Nouveau) กับอาร์ตเดโค (Art Déco) ได้อย่างลงตัว และภายในอาคารยังมีโครงสร้างเหล็กอันมีเอกลักษณ์ที่ถอดแบบลักษณะมาจากหอไอเฟล ซึ่งห้างได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2021 ที่ผ่านมา และกลายเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ ที่เน้นย้ำถึงเสน่ห์ของปารีส มีร้านค้าระดับพรีเมียม อาหาร และงานศิลปะ รวมแล้วกว่า 600 แบรนด์ มีนิทรรศการที่จะสลับหมุนเวียนให้ได้ชมตลอด

เดินทางสู่เมืองลีลล์ (Lille) เมืองหลวงของแคว้นนอร์ – ปาดกาแล ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก APARTHOTEL ADAGIO LILLE หรือเทียบเท่า
วันที่ 9

ลีลล์ - บรัสเซลส์ – อัมสเตอร์ดัม - ล่องเรือหลังคากระจก – สถาบันสอนการเจียระไนเพชร

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่บรัสเซลส์ (Brussels) เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม สถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ จากนั้นเข้าสู่จัตุรัสกรองด์ปลาสต์ (Grand Place) ที่มีชื่อเสียงกล่าวขานกันว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ชมศาลาว่าการเมืองและอาคารที่สวยงามโดยรอบจัตุรัส นำชมและถ่ายรูปกับ เมเนเก้นพีส (Manneken pis) ซึ่งเป็นประติมากรรมเด็กชายตัวเล็กๆกำลังยืนแอ่นตัวปัสสาวะอย่างน่ารัก ผู้สร้างประวัติศาสตร์และตำนานพื้นเมืองของชาวเบลเยี่ยมซึ่งมีการเล่าขานกันมาหลากหลายตำนาน เช่น มีเด็กชายชื่อจูเลียนสกี มาพบสายชนวนระเบิดกำลังติดไฟ จึงปัสสาวะรดเพื่อดับชนวนและป้องกันเมืองไว้ได้ ชาวเมืองจึงทำรูปแกะสลักนี้ เพื่อระลึกถึงความกล้าหาญ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (หอยแมลงภู่อบไวน์ขาว)
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) เมืองแห่งแสงสี และอิสรเสรีภาพ ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นำท่านผ่านชมเมืองที่มากมายไปด้วยพิพิธภัณฑ์ระดับโลกต่างๆ มากมาย นำท่านชมเมืองอัมสเตอร์ดัมโดยการล่องเรือหลังคากระจก ลัดเลี้ยวเข้าตามลำคลอง สัมผัสชีวิตความ เป็นอยู่ รวมทั้งสภาพบ้านเรือนเก่าแก่อันงดงามสืบทอดมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 และทัศนียภาพของบ้านเรือนอันสวยงามอย่างมีเอกลักษณ์ นำท่านเข้าชมสถาบันสอนการเจียระไนเพชร ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งท่านจะได้สัมผัสและเรียนรู้พื้นฐานในการดูและการเจียระไนเพชรในรูปแบบต่างๆ พร้อมกันนั้นยังได้มี โอกาสเลือกซื้อเพชรเม็ดงามในราคาโรงงาน และท่านสามารถเลือกชมสินค้าอื่น อย่างนาฬิกายี่ห้อดังมากมาย อาทิ เช่น ROLEX, PANERAI, TAG HEUER, IWC, PIAGET,LONGINES,OMEGA, TISSOT, CARTIER, BREITLING, CHOPARD รวมไปถึงนาฬิกาแฟชั่นอย่าง GUCCI,DIESEL, DKNY, CHANEL, ICE, EMPORIO ARMANI, SWATCH, MICHEAL KORS, TOMMY HILFIGER ฯลฯ นำท่านเดินเที่ยวชมและเลือก ซื้อสินค้าที่บริเวณจัตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square) ศูนย์กลางของเมืองที่มีอนุสรณ์สงครามเพื่อรำลึกถึง ทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 และอดีตศาลาว่าการเมืองที่หลุยส์ โบนาปาร์ต เคยใช้เป็นพระราชวังหลวงในช่วงที่จักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศสเรืองอำนาจ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก NOVOTEL AMSTERDAM SCHIPHOL AIRPORT หรือเทียบเท่า
วันที่ 10

อัมสเตอร์ดัม – หมู่บ้านกีธูร์น – ล่องเรือชมหมู่บ้านกีธูร์น – หมู่บ้านกังหันลมซานสคันส์ - หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม - สนามบิน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเยี่ยมชมหมู่บ้านกีธูร์น (Giethoorn Village) เมืองที่ได้รับฉายาว่า “เวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์” เมืองเล็กๆที่มีผู้คนอาศัยอยู่ประมาณ 2,600 คน เป็นหมู่บ้านที่ปราศจากถนนหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยคลอง ทะเลสาบ จึงทำให้ปราศจากมลพิษ ผู้คนในหมู่บ้านจะเดินทางโดยการใช้เรือเป็นพาหนะโดยลัดเลาะคลองที่มีความยาวประมาณ 7.5 กิโลเมตร จากนั้นนำท่านล่องเรือชมหมู่บ้านกีธูร์น เพลิดเพลินกับบรรยกาศของหมู่บ้าน unseen แห่งเนเธอร์แลนด์ หมู่บ้านที่ปราศจากถนนสักสาย ซึ่งจะมีลำคลองล้อมรอบหมู่บ้าน การคมนาคมยังคงใช้การสัญจรทางน้ำดั่งเช่นในอดีต อสิระให้ท่านเที่ยวชมหมู่บ้านแห่งนี้ พร้อมเก็บภาพความประทับใจ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านกังหันลมซานสคันส์ (Zaanse Schans) อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับกังหันลม สัญลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของชาวดัตช์ และชมการสาธิตวิธีการผลิตรองเท้าไม้ของชาวดัตช์ที่ใช้ใส่ในชีวิตประจำวันในงานอาชีพต่างๆพร้อมเชิญเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม (Volendam) นำท่านสัมผัสวิถีชีวิตของเมืองชาวประมงที่เรียงรายไปด้วยอาคารบ้านเรือนเก่าแก่รวมไปถึงท่าเรืออันแสนคึกคักของเมืองที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ยังคงอนุรักษ์ อนุรักษ์วัฒนธรรมการแต่งกายแบบดั้งเดิมของชาวดัตช์ไว้ที่เมืองนี้ อิสระให้ท่านได้ชมเมืองและเลือกซื้อขอวงฝากของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช๊อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
21.40 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสารเที่ยวบินที่ BR 076
วันที่ 11

กรุงเทพฯ

13.40 น. คณะเดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
มื้ออาหาร
วันที่ เช้า กลางวัน ค่ำ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
รายละเอียดและเงื่อนไข

1.ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***
2.ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า
ภายใน  3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
3.เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
4.หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
5.การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
6.หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน  การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

1.ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์    อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
2.ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3.ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ 
4.ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
5.ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
6.ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
7.ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท 
ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
** ลูกค้าท่านใดสนใจ...ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ ** 
    - เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]
    - เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน] 
**ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี **  
[รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
8. ค่ามัคคุเทศก์ของบริษัทดูแลตลอดการเดินทาง (ไม่รวมทิปมัคคุเทศก์)
9. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)

1.ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
2. ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น (ท่านละ 19 ยูโร)
3. ค่าทิปหัวหน้าทัวร์จากเมืองไทย (ท่านละ 33 ยูโร)
4. ค่าทิปพนักงานยกกระเป๋าเดินทางและสัมภาระประจำไโรงแรม (เพื่อป้องกันการสูญหาย ควรดูแลกระเป๋าด้วยตัวท่านเอง)
5. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 23 ก.ก.และมากกว่า 2 ชิ้น, ค่ารักษาพยาบาล และ ในกรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
6. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
7. ค่าวีซ่าประเทศฝรั่งเศสรวมค่าบริการยื่นวีซ่า (ประมาณ 5,900 บาท)
8. ค่าตรวจ RT-PCR Test หรือ Rapid Antigen ตามมาตราการของแต่ละประเทศ (ถ้ามี)