สินค้าถูกจองเต็มหมดแล้ว ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 02-277-9999

SUNRISE AT BLACK FOREST เยอรมนี – ออสเตรีย – สวิตเซอร์แลนด์ – อิตาลี 9 วัน 6 คืน โดยสายการบิน EVA Air (BR)

  • ทัวร์ : Austria [ ออสเตรีย ]
  • เที่ยวเมือง : Munich (มิวนิค) Milan (มิลาน) Zurich (ซูริค) Salzburg (ซาลซ์บูร์ก) Lucerne (ลูเซิร์น) Bern (เบิร์น) Zermatt (เซอร์แมท) Fussen (ฟุสเซ่น)
  • รหัสโปรแกรม : T6381
  • Code : QQGO3MUC-BR005
  • ประเภททัวร์ : ทัวร์ต่างประเทศ
  • ระยะเวลา : 9 วัน 6 คืน
ไฮไลท์ทัวร์ Highlight
มิวนิค | จัตุรัสมาเรียนพลาสท์ | ซาลส์บวร์ก | ฮัลสตัท | ล่องเรือทะเลสาปฮัลสตัท | ฟุสเซ่น | เข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ | ทิทิเซ่ | ชมความงามป่าดำ | น้ำตกไรน์ | ซูริค | ยอดเขาริกิ | ลูเซิร์น | ซุก | เบิร์น | ปราสาทชิลยอง | เซอร์แมต | ยอดเขากรอนเนอร์แกรต | มิลาน
รายละเอียดโปรแกรม
วันที่ 1

กรุงเทพ – สนามบินเถาหยวน(ไต้หวัน)

12.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบิน Eva Air ประตู U แถว 10 พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
15.10 น. ออกเดินทางสู่สนามบินเถาหยวนด้วยเที่ยวบิน BR202
20.00 น. เดินทางถึงสนามบินเถาหยวน รอเปลี่ยนเครื่อง
23.45 น. ออกเดินทางต่อสู่สนามบินมิวนิค ด้วยเที่ยวบิน BR071
วันที่ 2

สนามบินเถาหยวน– มิวนิค – จัตุรัสมาเรียนพลาสท์ – ซาลส์บวร์ก

07.35 น. ถึงสนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางสู่เมืองมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ นำท่านถ่ายรูปด้านนอกที่ BMW Welt เป็นที่จัดแสดงอยู่ภายในอาคารขนาดใหญ่กว่า 25,000 ตรม. ตั้งอยู่ติดกับอาคารสำนักงานใหญ่ของ BMW ท่านจะได้ชมรถยนต์ในเครือของ BMW โดยพื้นที่ใน BMW Welt จะถูกแบ่งออกเป็นพื้นที่ต่างๆในการจัดแสดงรถยนต์ BMW โมเดลปัจจุบันทุกซีรีย์, โซนมอเตอร์ไซค์ BMW, โซน MINI Exhibition, โซน Rolls-Royce นำชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. อิสระท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม และของฝากตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย หลังจากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย เมืองที่เป็นบ้านเกิดของนักดนตรีเอก “วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท” ที่มีชื่อเสียงก้องโลก โดยงเมืองซาลส์บวร์กมีความหมายว่า “ปราสาทเกลือ” เยี่ยมชมเขตเมืองเก่าศิลปะบาโรกที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซัลซาค เมืองซาลส์บวร์กเคยเป็นที่ประทับถาวรของอาร์คบิชอป และ เป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกที่สำคัญยิ่งของบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน นำท่านชมสวนมิราเบลล์ (Mirabel Garden) ซึ่งเป็นฉากหนึ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักเพลงสวรรค์” (The Sound of Music) ที่โด่งดังไปทั่วโลก จากนั้นให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้งถนนเกไทรเดร้ (Getreidegasse) ถนนชื่อดังย่านกลางเมืองเก่ามีร้านค้าแบรนด์เนมมากมาย บ้านเรือนที่ตั้งอยู่เรียงรายบนถนนสายนี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15-18 ลักษณะเด่น คือมีป้ายเหล็กสัญญษลักษณ์ต่างๆ ที่ทำด้วยมือและกรอบหน้าต่างเป็นภาพปูนปั้นแกะสลักประดับอยู่ และยังมีสถานที่ที่น่าสนใจ ได้แก่ บ้านเกิดโมสาร์ท ที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มากกว่า 20 ปี บ้านหลังนี้ถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในบ้านหลังนี้ยังทำให้เหมือนตอนที่โมสาร์ทมีชีวิตอยู่มากที่สุด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก FOURSIDE SALZBURG หรือเทียบเท่า
วันที่ 3

ซาลส์บวร์ก – ฮัลสตัท – ล่องเรือทะเลสาปฮัลสตัท – ฟุสเซ่น

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ออกเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวยที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีที่มีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบที่สวยงามถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ปลาเทร้าท์จากทะเลสาบฮัลสตัท)
บ่าย จากนั้นนำท่านล่องเรือทะเลสาปฮัลสตัทและชมความสวยงามของเมืองฮัลสตัทที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น UNESCO WORLD HERITAGE VIEW ***การล่องเรือ หากไม่สามารถล่องเรือได้ในวันนั้นๆ ทางบริษัทขอคืนเงินให้ ท่านละ 5 ยูโร*** อิสระให้ท่านเดินเล่นชมความสวยงามของเมืองและเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย

จากนั้นเดินทางสู่เมืองฟุสเซ่น (Fussen) เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เป็นเมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติกที่เคยมีความรุ่งเรืองในอดีตตั้งแต่ยุคโรมัน และได้ใช้เมืองนี้เป็นจุดแวะพักขนถ่ายสินค้า และซื้อขายเกลือมาแต่โบราณ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HIRSCH หรือเทียบเท่า
วันที่ 4

ฟุสเซ่น – เข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ – ทิทิเซ่ – ชมความงามป่าดำ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านสู่เมืองโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย จากนั้นเดินทางขึ้นปราสาทเพื่อเข้าชมความสวยงามของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) นำชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว ชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยการออกแบบของริชาร์ด ว้ากเนอร์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทรงโปรดปรานยิ่ง *** หากคณะไม่สามารถเข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คืนเงินหน้างานท่านละ 13 ยูโร และถ่ายรูปด้านนอกกับปราสาทนอยชวานสไตน์ เป็นการทดแทน ***
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ขาหมูเยอรมัน)
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองทิทิเซ่(Titisee) เมืองริมทะเลสาปที่ตั้งอยู่ในเขตป่าดำ (Black Forest) ให้ท่านได้อิสระชมความงามของบ้านเรือน นำท่านชมทัศนียภาพของป่าสนอยู่บนภูเขา ที่เรียกว่า แบล็กฟอเรสต์ สถานที่อันเป็นต้นกำเนิดนาฬิกากุ๊กกู
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง (ไส้กรอกเยอรมัน)
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก MARITIM TITISEE หรือเทียบเท่า *** ในกรณีที่ห้องพักเมืองทิทิเซ่เต็มจะย้ายไปเมืองข้างเคียงแทน***
วันที่ 5

ทิทิเซ่ – น้ำตกไรน์ – ซูริค – ยอดเขาริกิ - ลูเซิร์น

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ทางเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ติดกับพรมแดนเยอรมนี โดยสถาปัตยกรรมของบ้านเรือนในเมืองนั้นตกแต่งด้วยศิลปะแบบเรเนอซองซ์และศิลปกรรมแบบเฟรสโกรวมกับภาพวาดตามผนังของอาคารต่างๆที่บอกเรื่องราวของชาวเมืองอย่างสวยงาม นอกจากนั้นแล้วเมืองนี้ยังมีชื่อเสียงจากการที่เป็นที่ตั้งของน้ำตกไรน์ (Rhine Fall) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป นำท่านชมน้ำตกไรน์ (RhineFall) น้ำตกที่ใหญ่สวยงามและตื่นตาตื่นใจซึ่งเกิดจากแม่น้ำไรน์ทั้งสายไหลผ่านหน้าผากว้าง 150 เมตร จึงเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปและได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในยุโรปกลางด้วย อิสระให้ท่านได้ชื่นชมความงามของน้ำตกและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นพาท่านเดินทางนั่งรถไฟไต่เขาริกิ (Rigi) ที่ถือได้ว่าเป็นรถไฟไต่เขาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และยังเป็นอันดับ 2 รองจากยอดเขาวอชิงตัน ในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ในสหรัฐอเมริกา ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,797 เมตร ยอดเขาริกิ (Rigi Kulm) นี้มีที่มาจากคำว่า Mons Regina แปลได้ว่า ราชินิแห่งภูเขา (Queen of the mountains) เพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาอื่นๆ ได้รอบ 360 องศา
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย มีเวลาให้ท่านดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์อย่างเต็มอิ่ม ชมวิวที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติของทะเลสาบลูเซิร์นและทะเลสาบซุก จากนั้นนำท่านลงจากเขาโดยกระเช้าไฟฟ้าที่ให้ท่านสามารถชมวิวอันสวยงามระหว่างทางลง

จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก AMERON FLORA หรือเทียบเท่า
วันที่ 6

ลูเซิร์น – ซุก – เบิร์น – ปราสาทชิลยอง - เซอร์แมต

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน แบบสมัยใหม่ มีถนนเลียบไปตามเนินเขาตลอดระยะทาง

จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมือง นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักรวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง (ร้านอาหารที่ได้ Michelin guide)
บ่าย หลังจากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่กรุงเบิร์น(Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่านเดินลัดเลาะสู่ถนนจุงเคอร์นกาสเซ (Junkerngasse) ถนนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีในย่านเมืองเก่า มีบ้านอาคารสไตล์บาโรกตอนปลาย นำท่านแวะถ่ายรูปกับวิหารเบิร์น (Bern’s Minster) วิหารสไตล์โกธิคที่สูงที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 ประตูจะมีภาพที่บรรยายถึงการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้า จากนั้นเดินสู่ถนนแครมกัซเซอ (Kramgasse) นำถ่ายรูปกับบ้านไอน์สไตน์ (Einsteinhaus) บ้านเลขที่ 49 ที่อัลเบิร์ตไอน์สไตน์เคยอาศัยอยู่ที่นี่ เมื่อครั้งมาทำงานเป็นผู้ตรวจสอบของสำนักงานสิทธิบัตรของสวิส ช่วงปี ค.ศ.1902-1905 จากนั้นชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Zytglogge) อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านเดินชมมาร์กาสเซ(Marktgasse) ที่เต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200-300 ปี

นำท่านเดินทางสู่เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบ นำท่านถ่ายรูปคู่กับ ปราสาทชิลยอง(Chillon castle) ปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ SAVOY โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางละขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี

นำท่านสู่สถานีรถไฟเพื่อเดินทางเข้าสู่เมืองเซอร์แมต (Zermatt) เมืองแห่งสกีรีสอร์ท ยอดนิยมที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็นยอดเขาแมททอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง (ฟองดูว์ชีส)
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก SIMI HOTEL หรือเทียบเท่า ** ในกรณีที่ห้องพักเมืองเซอร์แมตเต็มจะเปลี่ยนไปนอนเมืองข้างเคียงแทน**
วันที่ 7

เซอร์แมต – ยอดเขากรอนเนอร์แกรต - มิลาน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านขึ้นรถไฟฟันเฟืองที่สถานีรถไฟกรอนเนอร์แกรต (Gornergrat railway) เพื่อนำท่านขึ้นยอดเขากรอนเนอร์แกรต (Gornergrat) ที่มีความสูงถึง 3,089 เมตร มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี โดยตลอดช่วงระยะเวลาที่นั่งรถไฟสู่ยอดเขา ท่านจะได้เห็นวิวที่สวยงามตลอดข้างทาง ได้เห็นยอดเขาแมททอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่มีความสูงถึง 4,478 เมตร ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดของเทือกเขาแอลป์มารอต้อนรับท่านอย่างสง่างาม ขณะที่รถไฟค่อยๆไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ท่านจะได้ชมความสวยงามของเมืองเซอร์แมต (Zermatt) ที่มีเสน่ห์เพิ่มมากขึ้นไปอีกเมื่อได้มองจากมุมสูง ได้เห็นอาคาร บ้านเรือนต่างๆ ที่สร้างในสไตล์สวิสชาเลต์ (Swiss Chalet) ซึ่งซ่อนตัวอยู่ทามกลางหุบเขาอันยิ่งใหญ่ อันสวยงาม จนรถไฟเดินทางมาถึงบนยอดเขากรอนเนอร์แกรต ชมทัศนียภาพที่สุดแห่งความงามของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่อลังการและโดดเด่นยิ่งนัก มีเวลาให้ท่านชื่นชมกับทิวทัศน์ที่สวยงามของแนวเทือกเขาแอลป์
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย จากนั้นเดินทางข้ามพรหมแดนสวิตเซอร์แลนด์ – อิตาลี สู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านถ่ายรูปด้านนอกของมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ผสมผสานกัน ชมความงดงามอันน่าอัศจรรย์ ของสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ นำท่านชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ซึ่งนับว่าเป็นช้อปปิ้งมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือลีโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณ ด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN MILAN NORD ZARA หรือเทียบเท่า
วันที่ 8

มิลาน – สนามบิน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
11.15 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสารเที่ยวบินที่ BR096
วันที่ 9

สนามบินเถาหยวน(ไต้หวัน) - กรุงเทพฯ

06.25 น. เดินทางถึงสนามบินเถาหยวน รอเปลี่ยนเครื่อง
08.20 น. ออกเดินทางต่อสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบินที่ BR075
11.15 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
มื้ออาหาร
วันที่ เช้า กลางวัน ค่ำ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
รายละเอียดและเงื่อนไข

1.ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น 
***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***
2.ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า
ภายใน  3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
3.เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
4.หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
5.การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
6.หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน  การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

1.ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์ อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
2.ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3.ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ 
4.ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
5.ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
6.ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
7.ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท 
ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
** ลูกค้าท่านใดสนใจ...ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ ** 
- เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]
- เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน] 
**ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี **  
[รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
8. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)

 

  1. ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
  2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 25 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
  3. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
  4. ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
  5. ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศเยอรมันรวมค่าบริการยื่นวีซ่า (5,900.-บาท)
  6. ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น (14 ยูโร/ต่อท่าน)
  7. ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (27 ยูโร/ต่อท่าน)