ฝรั่งเศส – สวิตเซอร์แลนด์ – อิตาลี งาม สุดฮิต พิชิตจุงเฟรา 9 วัน 6 คืน โดยสายการบิน Emirates (EK)

  • ทัวร์ : Europe [ ยุโรป ]
  • เที่ยวเมือง : Paris (ปารีส) Milan (มิลาน) Zurich (ซูริค) Lucerne (ลูเซิร์น) Venice (เวนิส)
  • สายการบิน : Emirates
  • รหัสโปรแกรม : T7238
  • Code : QQGO3CDG-EK008
  • ประเภททัวร์ : ทัวร์ต่างประเทศ
  • ระยะเวลา : 9 วัน 6 คืน
ราคาเริ่มต้นที่
ไฮไลท์ทัวร์ Highlight
ปารีส | ประตูชัย | หอไอเฟล | ล่องเรือแม่น้ำแซน | แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ | พิพิธภัณฑ์ลูฟท์ปารีส | OUTLET | ดีจอง | ซุก | ลูเซิร์น | ยอดเขาจุงเฟรา | ห้าง ลา ซามาริแตง | มิลาน | เมสเตร้ | เกาะเวนิส
ระยะเวลาเดินทาง
ราคาเริ่มต้น
สถานะ
16 ต.ค. 2566 - 24 ต.ค. 2566
75,900
รายละเอียดการจอง
จำนวนการจอง
ราคารวม (บาท)
ผู้ใหญ่ 2 ท่านพัก 1 ห้อง ราคาท่านละ
0
ผู้ใหญ่ 3 ท่านพัก 1 ห้อง ราคาท่านละ
0
ผู้ใหญ่ 1 ท่าน พักเดี่ยว 1 ห้อง(Single room) ราคาท่านละ
0
รายละเอียดโปรแกรม
วันที่ 1

กรุงเทพ – ดูไบ

17.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 9 เคาน์เตอร์ U สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
21.25 น. ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK373
วันที่ 2

ดูไบ – ปารีส – ประตูชัย – หอไอเฟล – ล่องเรือแม่น้ำแซน – พิพิธภัณฑ์ลูฟท์ - แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์

00.50 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
04.05 น. ออกเดินทางสู่กรุงปารีสด้วยเที่ยวบิน EK071
09.25น. ถึง สนามบินถึงท่าอากาศยานชาร์ล เดอ โกลด์ ประเทศฝรั่งเศส นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั๋วโมง) นำท่านเดินทางสู่มหานครปารีส (Paris) เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแลวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก ที่ทรงด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นำเที่ยวชมความงดงามของมหานครปารีส ผ่านชมความสวยงามของแม่น้ำแซนน์ที่ตัดผ่านใจกลางกรุงปารีส ข้ามสะพานสู่ เกาะเดอ ลา ซิเต้ กลางแม่น้ำแซน ผ่านลานประวัติศาสตร์จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde) ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอังตัวเนต ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยกิโยตินในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส แล้วผ่านเข้าสู่ถนนสายโรแมนติก ชองป์เอลิเซ่ (Champs Elysees) ซึ่งทอดยาวจากจัตุรัสคองคอร์ดตรงสู่ประตูชัยนโปเลียน นำชมและถ่ายรูปคู่กับประตูชัยนโปเลียน (Arc de Triomphe) สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียนในศึก เอาส์เตอร์ลิทซ์ในปี1805 โดยเริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1806 แต่มาแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1836 แล้วจากนั้นนำถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหอไอเฟล (Tour Eiffel) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นสูงตระหง่านคู่นครปารีสด้วยความสูงถึง 1,051 ฟุต ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1889 ที่บริเวณจัตุรัสทรอคคาเดโร่
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำท่านล่องเรือแม่น้ำแซน ไปตามแม่น้ำแซน ที่ไหลผ่านใจกลางกรุงปารีส ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอันคลาสสิคของอาคารต่างๆ ตลอดสองฝั่งแม่น้ำนับว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจโดยเรือจะล่องผ่านมหาวิหารนอเตรอดามแห่งปารีส (Notre-dame de Paris) อายุกว่า 800 ปี เป็นมหาวิหารสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่งามเลิศ โดดเด่นด้วยหอคอยคู่หน้าทรงเหลี่ยมและยอดปลายแหลมบนหลังคาวิหารสูงจากระดับพื้นดินถึง 96 เมตร เป็นสถานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสระหว่างพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กับพระนางมารี อังตัวแนตต์ และยังเป็นจุดกิโลเมตรที่ศูนย์ของประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย จากนั้นพาท่านสัมผัสกับบรรยากาศห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางกรุง ปารีสที่แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) หรือท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของสวิสจากร้าน Bucherer ร้านดังของสวิส ที่มีสาขาเปิดอยู่ใจกลางกรุงปารีส โดยมีสินค้ามากมาย อาทิเช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (หอยเอสคาโก้)
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก MERCURE PARIS IVRY DE SEINE หรือเทียบเท่า
วันที่ 3

ปารีส – มงมาร์ต - พิพิธภัณฑ์ลูฟท์ - ห้าง ลา ซามาริแตง

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ย่านมงมาร์ต (Montmartre) ซึ่งเป็นย่านศิลปินมากว่า 200 ปีแล้ว สัมผัสกับมนต์เสน่ห์และกลิ่นอายของวันวานที่ศิลปะในฝรั่งเศสรุ่งเรืองถึงขีดสุด ชมวิวสวยของนครปารีสจากด้านหน้าบันไดของวิหารสเกรเกอร์ (Basilica of Sacre Coeur) วิหารสีขาวที่เป็นสัญญาลักษณ์อันโดดเด่นของปารีส แล้วเชิญสำรวจร้านกาแฟ หรือชมเหล่าศิลปินที่วาดรูปอยู่ใกล้ๆ นำท่านถ่ายรูปคู่กับพิพิธภัณฑ์ลูฟท์ (Louvre Museum) พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงและยังมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในอดีตที่นี่เคยเป็นพระราชวังหลวงของราชวงศ์กาเปเซียง ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นที่จัดแสดงผลงานกว่า 35,000 ชิ้น ในพื้นที่กว่า 60,600 ตารางเมตร และมีผู้เข้าเยี่ยมชมมากถึง 9.7 ล้านคนต่อปี และที่นี่ยังเป็นที่จัดแสดงของภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ภาพโมนาลิซา (Monalisa) ของเลโอนาร์โด ดาวินชี ศิลปินผู้มีชื่อเสียงชาวอิตาลี อีกด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย จากนั้นนำท่านเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลกอย่าง ห้างลา ซามาริแตง (La Samaritaine) ที่ก่อตั้งในปี 1870 โดย Ernest Cognacq และ Marie-Louise Jaÿ โดยสถาปนิกผู้ออกแบบคือ Frantz Jourdain โดยเป็นอาคารเก่าแก่คลาสสิกที่ถูกขึ้นทะเบียน Monument Historique ให้เป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1990 พบกับความหรูหร่าโดดเด่นทั้งภายนอก และ ภายในอาคารของห้างด้วยศิลปะหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ภาพวาดฝาผนัง , แผงประดับอาคารที่แสนวิจิตร มีเสน่ห์เฉพาะตัว มีการผสมผสานระหว่างศิลปะอาร์ตนูโว (Art Nouveau) กับอาร์ตเดโค (Art Déco) ได้อย่างลงตัว และภายในอาคารยังมีโครงสร้างเหล็กอันมีเอกลักษณ์ที่ถอดแบบลักษณะมาจากหอไอเฟล ซึ่งห้างได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2021 ที่ผ่านมา และกลายเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ ที่เน้นย้ำถึงเสน่ห์ของปารีส มีร้านค้าระดับพรีเมียม อาหาร และงานศิลปะ รวมแล้วกว่า 600 แบรนด์ มีนิทรรศการที่จะสลับหมุนเวียนให้ได้ชมตลอด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก MERCURE PARIS IVRY DE SEINE หรือเทียบเท่า
วันที่ 4

ปารีส – OUTLET - ดิจอง

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นให้เวลาท่านอิสระเพื่อช๊อปปิ้งที่ เอาท์เลตขนาดใหญ่ทีมีสินค้าแบรนด์เนมให้เลือกมากมายอาทิ เช่น Coach, Calvin Klien, Amani, Burerry, Fred Perry, Versace, Diesel, Givenchy, Jimmy Choo, Longchamp, Michael Kors, Roberto Cavalli, Samsonite, Polo Ralph Lauren, Ted Baker, Superdry, Valentino, Salvator Ferragamo, Hugo Boss และอื่นๆอีกมากมาย อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย จากนั้นเดินทางสู่เมืองดิจอง (Dijon) ประเทศฝรั่งเศส อดีตเมืองหลวงแห่งแคว้นเบอร์กันดี ผ่านทุ่งราบอันกว้างใหญ่แหล่งผลิตมัสตาร์ดชื่อดัง อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในการผลิตไวน์ชั้นเลิศอีกด้วย ผ่านชมอาคารบ้านเรือนสมัยเรเนสซองส์ โบสถ์และวิหารเก่าแก่ในสมัยยุคกลาง ซึ่งมีจุดเด่นคือ การมุงหลังคาด้วยกระเบื้องสีแดงสดจัดเรียงเป็นลวดลายงาม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก IBIS DIJON CLEMENCEAU หรือเทียบเท่า
วันที่ 5

ดีจอง - ลูเซิร์น - ซุก - ซูริค

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโก แลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น ฯลฯ
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย จากนั้นเดินทางสู่จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ นำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก DORINT ZURICH หรือเทียบเท่า
วันที่ 6

ซูริค - ยอดเขาจุงเฟรา - มิลาน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ออกเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) เมืองตากอากาศที่สวยงาม เพื่อขึ้นกระเช้าEiger Express กระเช้าลอยฟ้าตัวใหม่ สู่สถานี Eigergletscher โดยกระเช้าตัวนี้นอกจากจะให้ท่านได้เห็นวิวความสวยงามของจุงเฟราโดยรอบ หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อด้วยรถไฟเพื่อขึ้นสู่ สถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป (Top of Europe) ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ โดยเมื่อปี คศ.2001 องค์การยูเนสโกประกาศให้ยอดเขาจุงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร หลังจากนั้นนำท่านเข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึกถึง 30 เมตร อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการถ่ายรูป เล่นหิมะบนยอดเขาและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขา และที่ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารบนยอดเขา
บ่าย จากนั้นเดินทางสู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก BEST WESTERN GOLDENMILE หรือเทียบเท่า
วันที่ 7

มิลาน– เกาะเวนิส - เมสเตร้

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองเวนิส (Venice Mestre) ฝั่งแผ่นดินใหญ่ เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต เวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็ก ๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย เป็นเมืองท่าโบราณ และเป็นเมืองที่ใช้คลองในการคมนาคม มากที่สุด
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำท่านเดินทาง สู่ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto) นำท่านล่องเรือผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น "ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก" มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส จากนั้นนำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส ชมสะพานถอนหายใจ ( Bridge of Sighs) ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ ซึ่งเชื่อมต่อกับวังดอดจ์ (Doge’s Palace) อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาเเล้วคือ คาสโนว่านั่นเอง นำท่านถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสซานมาร์โค (St.Mark’s Square) ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป” จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาเขตอันงดงาม รวมทั้งโบสถ์ซานมาร์โค (St.Mark’s Bacilica) ที่มีโดมใหญ่ 5 โดม ตามแบบศิลปะไบแซนไทน์ จากนั้นอิสระให้ท่านได้มีเวลาเที่ยวชมเกาะอันแสนโรแมนติก เช่น เพื่อชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส, เข้าชมโบสถ์ซานมาร์โค, ช๊อปปิ้งสินค้าของที่ระลึก อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่,หน้ากากเวนิส หรือนั่งจิบกาแฟในร้าน Café Florian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1720 สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ฝั่งแผ่นดินใหญ่ Venice Mestre
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (สปาร์เก๊ตตี้หมึกดำ)
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก NOVOTEL MESTRE CASTELLENA หรือเทียบเท่า
วันที่ 8

เมสเตร้ - สนามบิน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
11.30 น. นำคณะเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำคืนภาษี (Tax Refund) และ มีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
15.35 น. เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ EK136
วันที่ 9

ดูไบ - กรุงเทพ

03.45น. ออกเดินทางต่อกลับสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบิน EK376
13.25 น. เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
มื้ออาหาร
วันที่ เช้า กลางวัน ค่ำ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
รายละเอียดและเงื่อนไข

1.ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น 
***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***
2.ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า
ภายใน  3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
3.เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
4.หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
5.การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
6.หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน  การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

1.ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์    อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
2.ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3.ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ 
4.ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
5.ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
6.ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
7.ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท 
ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
** ลูกค้าท่านใดสนใจ...ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ ** 
-    เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]
-    เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน] 
**ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี **  
[รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
8. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)

1.ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
2.ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
3.ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
4.ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
5.ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศฝรั่งเศสรวมค่าบริการยื่นวีซ่า (5,900.-บาท) 
6.ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น  16 ยูโร/ต่อท่าน) 
7.ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (27 ยูโร/ต่อท่าน)