สินค้าถูกจองเต็มหมดแล้ว ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 02-277-9999

AUTUMN CHERRY BLOSSOM OBARA KAMAKURA 7D 4N โดยสายการบินไทย [TG]

  • ทัวร์ : Japan [ ญี่ปุ่น ]
  • เที่ยวเมือง : Osaka (โอซะกะ)
  • รหัสโปรแกรม : T6479
  • Code : QQGO2KIX-TG032
  • ประเภททัวร์ : ทัวร์ต่างประเทศ
  • ระยะเวลา : 7 วัน 4 คืน
ไฮไลท์ทัวร์ Highlight
ชมซากุระพร้อมใบไม้เปลี่ยนสี ณ โอบาระ - ชมใบไม้เปลี่ยนสีหุบเขาโครังเค - พักโรงแรมใกล้แหล่งช้อปปิ้งในโตเกียว 2 คืน - พักออนเซ็น 1 คืน - ชมป่าไผ่อาราชิยาม่า - สะพานโทเค็ทสึเคียว - งานประดับไฟ NABANA NO SATO - โอซิโนะฮักไก - ภูเขาไฟฟูจิ(ชั้น5) - อุโมงค์ใบเมเปิ้ล ณ โมมิจิ ไคโร - เกาะแมวเอโนชิมะ - เมืองคามาคุระ - ชมใบไม้เปลี่ยนสสีที่วัดฮาเซเดระ – ช้อปปิ้งซินจูกุ ไดเวอร์ซิตี้ โอไดบะ - บุฟเฟ่ต์เมนูขาปูยักษ์
รายละเอียดโปรแกรม
วันที่ 1

กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – โอซาก้า (สนามบินคันไซ) (TG622 23.59-07.30)

21.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตูหมายเลข 10 เคาน์เตอร์ U สายการบินการบินไทย เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
23.59 ออกเดินทางสู่ สนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 622 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
วันที่ 2

โอซาก้า (สนามบินคันไซ) – เมืองอาราซิยาม่า – สะพานโทเค็ทสึเคียว – ป่าไผ่อาราชิยาม่า – มิเอะ – งานประดับไฟ NABANA NO SATO - นาโกย่า

07.30 น. เดินทางถึง สนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว [สำคัญมาก!! ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้]

เดินทางสู่ อาราชิยาม่า (Arashiyama) เป็นอีกเขตหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมากัน อยู่ทางตะวักตกของเกียวโต โดยเริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่สมัยเฮอัน (794-1185) เป็นต้นมา และจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมกันอย่างคับคั่งในช่วงที่ดอกซากุระบานและช่วงใบไม้แดงหรือใบไม้เปลี่ยนสี ตัวเมืองอาราชิยาม่านั้นจะคึกคักมากในช่วงวันหยุด มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และบริเวณโดยรอบก็สามารถเดินเที่ยวได้เรื่อยๆ สถานที่ที่ได้รับความนิยมอีกที่หนึ่งเมื่อมาถึงเมืองนี้ก็คือ อุโมงค์ป่าไผ่ (Bamboo) ทางเดินที่โอบล้อมด้วยต้นไผ่สีเขียวที่สูงมาก ส่วนทางตอนเหนือของเมืองนั้นจะมีวัดเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วไปตามภูเขาที่เขียวชะอุ่ม จุดท่องเที่ยวที่สวยงามอีกทีนึงก็คือซากาโน่ ที่ตั้งของ สะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo) ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของอาราชิยาม่า เป็นสะพานที่ใช้ข้ามแม่น้ำสายใหญ่ของเมือง ซึ่งอยู่ไม่ใกล้กับตัวเมืองมากนัก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 1)

เดินทางสู่เมืองเมืองคุวานะ จังหวัดมิเอะ (Mie) มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่ติดชายฝั่งทะเล และประวัติศาสตร์เก่าแก่จนถูกยกให้เป็นมรดกโลก เป็นจังหวัดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์

นำท่านเยี่ยมชมงาน เทศกาลแสดงไฟ NABANA NO SATO เป็นงานประดับไฟที่สุดอลังการของญี่ปุ่น โดยมีไฮไลท์ คือ “อุโมงค์ไฟดาวล้านดวง” วิวดอกไม้นานาพันธุ์ ซึ่งดอกไม้เป็นสิ่งดึงดูดใจหลักของงานประดับไฟ โดยแปลงสวนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน มีดอกไม้และต้นไม้หลาย ๆ พันธุ์ ส่วนของสวน Begonia ขนาดใหญ่ที่มีดอกไม้เพียงอย่างเดียวมากกว่า 12,000 ชนิด บานสะพรั่งตลอดปี ส่วนในอาคารเรือนกระจกยักษ์มีพันธุ์ไม้ที่ปลูกในกระถางทั้งสวนดอกไม้ Andes และสวนดอกไม้ Begonia

เดินทางสู่เมืองนาโกย่า เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน เป็นเมืองใหญ่ที่สุดใน ภูมิภาคจูบุ ซึ่งอยู่ตรงกลางของประเทศญี่ปุ่น มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
เย็น อิสระรับประทานหารอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก THE B NAGOYA HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 3

เมืองโอบาระ – ชมใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมซากุระ (ตามสภาพอากาศ) – หุบเขาโครังเค - เมืองเก่าอาสึเกะ - ทะเลสาบฮามานะโกะ – เมนูขาปูยักษ์ – แช่น้ำแร่ธรรมชาติ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 2)

นำท่านเดินทางสู่ จังหวัดไอจิ (Aichi) ตั้งอยู่กลางระหว่างเมืองใหญ่อย่างโตเกียวและโอซาก้า มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่สวยงาม

เมืองโอบาระ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดไอจิ อยู่ทางตอนกลางของญี่ปุ่น นำท่านดินทางชม “เทศกาลชมดอกซากุระและใบไม้แดงครั้งที่ 27” ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ซากุระจะเบ่งบานพร้อมกับใบไม้เปลี่ยนสี (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ซากุระพันธุ์นี้มีชื่อว่า ชิกิซากุระ (Shikizakura) เป็นซากุระสายพันธุ์ที่หายากมาก ๆ โดยมีความพิเศษที่แตกต่างจากซากุระทั่ว ๆ ไป คือจะบาน 2 ครั้งต่อปี ดอกชิกิซากุระ เริ่มบานในช่วงกลางเดือนมีนาคมในฤดูใบไม้ผลิและจะบานอีกครั้งเดือนพฤศจิกายนในฤดูใบไม้ร่วง ใครที่พลาดชมซากุระในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สามารถมาชมความสวยงามของดอกซากุระในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเดือนพฤศจิกายนได้ที่นี่ โดยงานเทศกาลชมดอกซากุระและดอกไม้แดงจะจัดขึ้นตลอดเดือนพฤศจิกายน โดยจะมีร้านอาหารแผงลอยสไตล์ญี่ปุ่น และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีต้น Shikizakura ที่มีอายุมากกว่า 100 ปีซึ่งถือเป็นสมบัติทางธรรมชาติของจังหวัดไอจิให้ชมอีกด้วย ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับความสวยงามของธรรมชาติตามอัธยาศัย

เดินทางสู่ หุบเขาโครังเค (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีที่สุดในภูมิภาคชูบุ หุบเขาอยู่ในหมู่บ้านอะสุเกะ มีสายน้ำโอบล้อมภูเขาอิโมริ ที่ความสูง 254 เมตร ด้านบนเป็นที่ตั้งของวัดโคจะคุจิ เล่ากันว่ากว่า 300 ปีที่แล้ว เจ้าอาวาสวัดโคจะคุจิ เริ่มปลูกต้นเมเปิ้ลบริเวณวัด ต่อมาชักชวนชาวบ้านให้มาช่วยปลูกเพิ่มเติมจนเต็มหุบเขา ถึงวันนี้มีต้นเมเปิ้ลมากกว่า 4000 ต้น ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเหล่าใบเมเปิ้ลจะเปลี่ยนสีสวยสะพรั่งทั่วหุบเขา ไฮไลท์!! เส้นทางริมแม่น้ำโทโมเอะ ซึ่งมีสะพานไม้ไทเกะสึเคียวเป็นฉากเด่น และเป็นสะพานสัญลักษณ์ประจำโครังเค ถือเป็นจุดที่สวยที่สุดของหุบเขาแห่งนี้ และในแต่ละฤดูจะมีเสน่ย์สวยงามต่างกันชวนให้หลงไหล

นำท่านอิสระ เมืองเก่าอาสึเกะ หมู่บ้านเก่าแก่ที่มีบรรยากาศแบบย้อนยุคไปสู่ยุคเอโดะ เป็นถนนสายโบราณที่เคยเป็นเมืองแวะพักบนเส้นทางการค้าอิดะไคโด สองฝั่งถนนมีร้านค้าเรียงรายเป็นระยะ ทั้งร้านขนมหวาน ร้านอาหารพื้นเมือง ร้านหนังสือเก่า เรียวกังเก่าแก่ และคาเฟ่ รวมระยะทางยาว 2 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และย่านเมืองเก่าแห่งนี้ได้รับเลือกให้เป็นย่านอนุรักษ์กลุ่มอาคารโบราณที่สำคัญแห่งชาติแห่งแรกในไอจิ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 3)

เดินทางสู่ จังหวัดชิสุโอกะ ชม ทะเลสาบฮามานะโกะ (Hamanako) เป็นทะเลสาบที่เพาะพันธุ์ปลาไหลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ของทะเลสาบหรือเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากปลาไหลนานาชนิด เช่น พายปลาไหล, ปลาไหลอบซีอิ้ว
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 4) **พิเศษ เมนูขาปูยักษ์สไตล์ญี่ปุ่น พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด**
ที่พัก SUNFUJI YAMANAKAKO ONSEN หรือเทียบเท่า หลังมื้ออาหารค่ำ ให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
วันที่ 4

หมู่บ้านน้ำใส โอซิโนะฮักไก - ภูเขาไฟฟูจิ(ชั้น5) - กิจกรรมชงชา - อุโมงค์ใบเมเปิ้ล ณ โมมิจิ ไคโร - โตเกียว – ช้อปปิ้งซินจูกุ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 5)

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮักไค (Oshino Hakkai Village) เป็นจุดท่องเที่ยวที่สร้างเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ ประกอบด้วยบ่อน้ำ 8 บ่อในโอชิโนะ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบคาวากูจิโกะกับทะเลสาบยามานาคาโกะซึ่งเป็นพื้นที่เก่าของทะเลสาบแห่งที่ 6 ที่แห้งขอดไปเมื่อ 200 -300 ปีที่ผ่านมา บ่อน้ำทั้ง 8 นี้เป็นน้ำจากหิมะที่ละลายในช่วงฤดูร้อน ที่ไหลมาจากทางลาดใกล้ ๆ ภูเขาไฟฟูจิผ่านหินลาวาที่มีรูพรุนอายุกว่า 80 ปี ทำให้น้ำใสสะอาดเป็นพิเศษ ถัดไปอีกบ่อหนึ่งนักท่องเที่ยวสามารถดื่มน้ำเย็นจากแหล่งน้ำได้โดยตรง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก บางร้านยังขายมันเทศหวานย่าง และขนมแซมเบ้ บนเตาเล็ก ๆ กลางแจ้งส่งกลิ่นหอมชวนให้ลิ้มรสอีกด้วย

เดินทางสู่ ภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) ที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเกาะญี่ปุ่นด้วยความสูง 3,776 เมตร จากระดับน้ำทะเล นำท่านขึ้นชมความงามกันแบบใกล้ชิดยังบริเวณ “ชั้น 5” ของภูเขาไฟฟูจิ (ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ) เพื่อชมทัศนียภาพโดยรอบของภูเขาไฟที่ สามารถมองเห็นทะเลสาบทั้งห้ากระจายอยู่โดยรอบ ให้ท่านได้สัมผัสอากาศอันบริสุทธิ์บนยอดเขาฟูจิ ถ่ายภาพที่ระลึกกับภูเขาไฟที่ได้ชื่อว่ามีสัดส่วนสวยงามที่สุดในโลก ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังดับไม่สนิท และมีความสูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น หมายเหตุ: ในกรณีที่ ภูเขาไฟฟูจิไม่สามารถขึ้นได้เนื่องจากสภาพอากาศ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนโปรแกรมทัวร์เป็น Fuji Visitor Center ซึ่งท่านสามารถศึกษาความเป็นมาของภูเขาไฟฟูจิและเลือกซื้อของที่ระลึกเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิได้ และยังเป็นจุดถ่ายรูปกับภูเขาไฟฟูจิได้สวยงามในช่วงฤดูหนาว
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 6)

นำท่านร่วมทำ กิจกรรมชงชา โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การจับถ้วยชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีขั้นตอนที่มีรายละเอียดที่ประณีตและสวยงามเป็นอย่างมาก และท่านยังมีโอกาสได้ลองชงชาด้วยตัวท่านเองอีกด้วย ซึ่งก่อนกลับให้ท่านอิสระเลือกซื้อของที่ฝากของที่ระลึกตามอัธยาศัย

นำท่านชม โมมิจิ ไคโร อุโมงค์ใบเมเปิ้ล โมมิจิ ไคโร (Momiji Kairo) (ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ) มีอีกชื่อในภาษาอังกฤษคือ Maple Corridor หรือแปลความหมายตรงตัวว่า ทางเดินสายเมเปิ้ล เป็นจุดชม ใบไม้เปลี่ยนสี บริเวณทะเลสาบคาวากุจิโกะตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทางตอนเหนือของทะเลสาบ เลียบแม่น้ำสายเก่า ลักษณะของสถานที่นี้จะเป็นทางเดินยาวเลียบทางแม่น้ำ ที่มีต้นเมเปิ้ลหรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า โมมิจิ ปลูกเรียงรายตลอดสองข้างทาง พอถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงปุ๊บ ใบเมเปิ้ลจะเปลี่ยนเป็นสีแดง สีส้มและร่วงหล่นลงตามพื้นปกคลุมทางน้ำสายเก่า จนกลายเป็นสีส้มแดงไปทั่วบริเวณทั้งด้านบนและด้านล่าง มองดูเหมือนอุโมงค์หลากสีสัน

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ โตเกียว ช้อปปิ้ง ย่านชินจูกุ (Shinjuku) แหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ใจกลางเมืองหลวงโตเกียว เป็นศูนย์รวมแฟชั่นเก๋ ๆ เท่ห์ ๆ ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของของย่านนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น ในแต่ละวันมีผู้คนจำนวนมากถึง 2.5 ล้านคนที่ใช้บริการสถานีแห่งนี้ ทางด้านตะวันตกย่านนี้ที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้าหลายอาคาร มีทั้งโรงแรมชั้นนำ และในส่วนทางด้านตะวันออกนั้น คือ คาบูกิโจ (Kabuki-jo) เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Bic Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่มีร้านอาหารเยอะแยะมากมาย เช่น ร้านอิซากายะ (Izakaya)
เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก SHINJUKU WASHINGTON HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 5

อิสระช้อปปิ้งในโตเกียว หรือ เลือกซื้อทัวร์ ธีมพาร์กมูมิน ตัวการ์ตูนสุดน่ารักสไตล์นอร์ดิก ที่จังหวัดไซตามะ หรือเลือกซื้อทัวร์โตเกียวดิสนี่ย์แลนด์ (เดินทางโดยรถไฟ)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 7)

อิสระช้อปปิ้งในโตเกียว ไกด์แนะนำท่านเดินทางโดยรถไฟ เพื่อไปเที่ยวย่านดังในโตเกียวและแหล่งช้อปปิ้ง อาทิ ย่านชินจุกุ (Shinjuku shopping) สถานบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ใจกลางเมืองโตเกียว เป็นศูนย์รวมแฟชั่นเก๋ ๆ เท่ห์ ๆ ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของของย่านนี้

คาบูกิโจ (Kabuki-jo) เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Big Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่มีร้านอาหารเยอะแยะมากมาย เช่น ร้านอิซากายะ (Izakaya) เป็นต้น

ย่านฮาราจูกุ (Harajuku) แหล่งช้อปปิ้งมีสไตล์ ย่านฮาราจูกุท่านจะพบกับเหล่าวัยรุ่นญี่ปุ่นแต่งตัวคอสเพลย์ สนุกไปกับการแต่งตัวเพลิดเพลินเป็นแฟชั่นของตัวเองที่มีอิสระในการแต่งตัวน่ารักหลากหลายสไตล์ทั้งแนวโลลิต้าสุดคิ้ว แนวกอทิกสุดเท่ หรือแนวเดคอร่าเก๋ ๆ วิกสีสันโดดเด่นแปลกตา อยากได้เสื้อผ้า ถุงเท้า เครื่องประดับสวย ๆ ต้องห้ามพลาดกับเมืองฮาราจูกุประเทศญี่ปุ่น

ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่โด่งดังในกรุงโตเกียว สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่บูชาดวงวิญญาณของจักรพรรดิเมย์จิและจักรพรรดินีโชเกน ในระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ศาลเจ้าเมจิได้ถูกทำลายลง แต่ภายหลังได้มีการบูรณะและสร้างขึ้นมาใหม่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งศาลเจ้านี้ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีฮาราจูกุ (Harajuku Station) อยู่ติดกับสวนโยโยกิ (Yoyogi Park) และบริเวณทางเข้าจะมีเสาโทริอิขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า เมื่อเดินผ่านเข้ามาจะเป็นป่าใจกลางเมือง มีต้นไม้อยู่มากถึง 1 แสนต้น หรือที่เรียกกันว่า Meiji Jingu’s forest ร่มรื่นมาก คนญี่ปุ่นมักจะมาเดินเล่นและออกกำลังบริเวณนี้ ย่านชิบูย่า (Shibuya) เต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารที่ทันสมัย สถานที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม คลับ และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นยังมีสถานที่ต่าง ๆ ที่คนต่างชาติรู้จักเป็นอย่างดี อาทิรูปปั้นฮาจิโกะ สุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่กลายเป็นจุดนัดพบและสถานที่ที่หากใครมาเยือนชิบูย่าต้องแวะมาถ่ายรูป ห้าแยกชิบูย่าที่มีคนเดินสวนกันไปมาจนตาลายบริเวณ ชิบูย่าเซ็นเตอร์ไก (Shibuya Center-gai) ถนนช้อปปิ้งแหล่งรวมตัวของวัยรุ่น อากิฮาบาระ (Akihabara) เป็นแหล่งช็อปปิ้งสุดคึกคักที่ขึ้นชื่อเรื่องร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีตั้งแต่ร้านเล็ก ๆ ไปจนถึงศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เช่น ห้างโยโดบาชิ มัลติมีเดีย อากิบะ นอกจากนี้ยังมีร้านที่เน้นขายหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น แอนิเมชันและวิดีโอเกมอย่างร้าน Tokyo Anime Center ซึ่งมีทั้งส่วนนิทรรศการและส่วนขายของที่ระลึก รวมถึงร้าน Radio Kaikan สูง 10 ชั้นที่เต็มไปด้วยของเล่น เกมการ์ด และของสะสม ใกล้ ๆ กันยังมีคาเฟ่ที่พนักงานในร้านสวมชุดเมดและพ่อบ้านอีกด้วย

ตลาดอะเมโยโกะ (Ameyoko) ตั้งอยู่ระหว่างสถานีอุเอโนะ (Ueno Station) และสถานีโอคาชิมาชิ (Okachimachi Station) นับเป็นตลาดฮอตฮิตของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ดูได้จากบรรยากาศการค้าขายภายในตลาดที่คึกคักคนเยอะอยู่ตลอดเวลา จุดเด่นของที่ตลาดแห่งนี้ก็นาจะเป็นสินค้าที่หลากหลายมาก ๆ มีทั้งของสดไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ อย่าง เครื่องสำอาง กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้าทั้งของญี่ปุ่น ของนำเข้าจากต่างประเทศ อาหารทะเล ผลไม้ ผักสด ร้านขนมของกินเล่น ทาโกะยากิยักษ์ โมจิ ขนมเค้ก ช็อคโกแลต ไอศครีม ชานมไข่มุก และร้านอาหารญี่ปุ่น อย่างราเม็ง ซูชิ ข้าวหน้าปลาไหล ในย่านนี้เป็นที่ตั้งของ ตึกม่วง ทาเคยะ เป็นดิสเคาน์สโตร์ที่เปิดมานานที่สุดในโตเกียว และจัดจำหน่ายสินค้ายอดฮิตที่ทุกท่านต้องการ โดยจำหน่ายในราคาสมเหตุสมผล ไม่ว่าจะเป็น ของกิน(ขนม ชา กาแฟ ถั่ว ผลไม้อบแห้ง) ยา วิตามิน เครื่องสำอาง น้ำหอม นาฬิกาข้อมือ เสื้อผ้ากระเป๋าแบรนด์เนม เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ โดยที่ท่านสามารถหาซื้อของทั้งหมดได้ในที่เดียว สำหรับลูกค้าชาวต่างชาติ ยังสามารถขอคืนภาษีสินค้าทุกประเภทได้ที่เคาน์เตอร์ขอยกเว้นภาษีภายในร้าน ทำให้สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกมากกว่าเดิม นอกจากนี้ภายในร้านยังมีให้บริการ FREE WIFI ทุกอาคาร และพนักงานที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ ภาษาไทยได้คอยดูแลท่านในระหว่างการเลือกซื้อสินค้า ทำให้ตึกม่วง ทาเคยะเป็นที่รู้จักแพร่หลายและเป็นร้านค้ายอดนิยมในหมู่ลูกค้าชางต่างชาติเป็นอย่างมาก

หรือท่านจะเลือกซื้อทัวร์เสริม ธีมพาร์กมูมิน ตัวการ์ตูนสุดน่ารักสไตล์นอร์ดิก ที่จังหวัดไซตามะ หมู่บ้านมูมิน (Moomin Valley Park) ตั้งอยู่ที่บริเวณแถบชายฝั่งของทะเลสาบมิยาซาวา (Lake Miyazawa) เมืองฮันโนะ (Hanno) จังหวัดไซตามะ (Saitama) เป็นแลนด์มาร์กใหม่เปิดเมื่อช่วงวันที่ 16 มีนาคม 2019 บรรยากาศภายในเขาจะจำลองให้กลายเป็นหมู่บ้านมูมินที่มีทั้งบ้านสไตล์สูง ๆ เก๋ ๆ โรงละครแบบโอเพ่นชื่อว่า Oshun Oxtra theatre ที่จะมีการแสดงของเหล่ามูมินและผองเพื่อนมาให้ได้ดูเพลิดเพลินกัน ประภาคารที่สามารถมองวิวสวย ๆ ของบริเวณรอบ ๆ ได้ และคาเฟ่ร้านอาหารธีมมูนมินสุดคิ้ว หรือถ้าอยากหากิจกรรมสนุก ๆ ก็ยังสามารถเล่น Hobgoblin’s zip line มีหลากหลายมุมที่เค้าจัดไว้ให้เราได้เต็มที่กับการถ่ายรูปเหมือนหลุดเข้าไปในโลกของครอบครัวมูมิน ให้ท่านได้เพลิดเพลินช้อปปิ้งสินค้ามูมินอย่างจุใจ และมีร้านอาหาร คาเฟ่ธีมมูมินให้ท่านเข้าไปนั่งชิลรับประทานเครื่องดื่มและของหวาน เพิ่มผู้ใหญ่ท่านละ 750 บาท / เด็กอายุ4-10 ปี ท่านละ 350 บาท (ราคานี้รวมค่าเดินทางโดยรถไฟไป - กลับ) [ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง]

หรือเลือกซื้อทัวร์เสริม โตเกียวดิสนีย์แลนด์ ดิสนี่ย์ซี เชิญท่านพบกับความอลังการซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งตำนานและจินตนาการของการผจญภัย ใช้ทุนในการก่อสร้าง 600 ล้านเยน โดยการถมทะเล ท่านจะได้พบสัมผัสกับเครื่องเล่นในหลายรูปแบบ เช่น ท้าทายความมันส์เหมือนอยู่ในอวกาศไปกับ SPACE MOUTAIN, ระทึกขวัญกับ HAUNTED MANSION บ้านผีสิง, ตื่นเต้นกับ SPLASH MOUNTAIN, นั่งเรือผจญภัยในป่ากับ JUNGLE CRUISE, เที่ยวบ้านหมีพูห์, ตะลุยอวกาศไปกับ BUZZ LIGHTYEAR’S ASTRO BLASTERS, เข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการกับการ์ตูนที่ท่านชื่นชอบของ WALT DISDEY ราคาบัตรเริ่มต้น ผู้ใหญ่ท่านละ 3,000 บาท / เด็ก 2,500 บาท ไม่รวมค่ารถไฟในการเดินทาง [ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง หากสนใจโปรดติดต่อเจ้าหน้าที่]

* เพื่อให้ท่านได้สนุกสนานอย่างเต็มที่จึงไม่มีบริการอาหารกลางวันและอาหารค่ำ *
ที่พัก SHINJUKU WASHINGTON HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 6

เกาะเอโนชิมะ(เกาะแมว) - วัดฮาเซเดระ – ช้อปปิ้งไดเวอร์ซิตี้ โอไดบะ – สนามบินฮาเนดะ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 8)
นำท่านเดินทางสู่ เกาะเอโนชิมะ (Enoshima Island) เป็นเกาะที่มีพื้นที่เพียง 0.38 ตารางกิโลเมตร อยู่จังหวัดคานางาวะ (Kanagawa) เป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้โตเกียวมากๆ เมื่อถึงหน้าร้อน คนญี่ปุ่นจากโตเกียวและจังหวัดใกล้เคียงมักจะเดินทางมาที่นี่เพื่อเล่นน้ำบริเวณชายหาด บนเกาะเอโนชิมะมีแมวอยู่ค่อนข้างเยอะ จุดเด่นของแมวจรจัดญี่ปุ่นก็คือตัวอ้วนและขนฟูมาก เพราะต้องทนอากาศหนาวๆ ขนาดไม่มีเจ้าของก็ยังดูสะอาดและน่าเกาคาง เกาะนี้นอกจากจะมีเจ้าแมวเหมียวให้หลงรัก ยังมีร้านค้า ร้านอาหารให้ท่านได้เดินเลือกซื้อ และยังมี ศาลเจ้าเอโนชิมะ (Enoshima Shrine) ผู้คนที่นี่ก็มักจะมาสักการะเทพเจ้าและขอพร และหากเราเดินขึ้นไปถึงศาลเจ้าด้านบนก็จะมีมุมให้ชมวิว
นำท่านเดินทางสู่เมืองคามาคุระ เมืองเก่าเคล้าวัฒนธรรมที่มีประวัติความเป็นมาหลายร้อยปี ตั้งอยู่ติดภูเขาและทะเล นำท่านชม วัดฮาเสะเดระ (Hase dera Temple) วัดแห่งนี้สร้างเสร็จในปี 736 ภายในโบสถ์หลักประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ สูง 9.18 เมตร เป็นการแกะสลักจากไม้ที่มีขนาดใหญ่องค์หนึ่งของญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังมีจุดอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น เจดีย์ห้าชั้นที่สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองคามาคุระ และอ่าวซางามิ นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีรูปปั้น นาโกมิจิโซ โดยเป็นรูปปั้น เทพจิโซ ที่มีเอกลักษณ์ คือ ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วทุกแห่งภายในวัดแห่งนี้ วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีอีกด้วย โดยช่วงที่สวยที่สุดคือเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้าอาหาร (มื้อที่ 9)
ช้อปปิ้งจุใจ ไดเวอร์ซิตี้ โอไดบะ (Odaiba) เป็นเกาะรวมศูนย์กลางความบันเทิง ย่านเมืองใหม่ที่เกิดจากการถมทะเลขึ้นมาเป็นเกาะ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1850 เกาะนี้เป็นที่แสดงให้เห็นถึง วิสัยทัศน์ และศักยภาพของชาวญี่ปุ่นที่สามารถสร้าง สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ขึ้นมาให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายชนิดที่ ห้างไดเวอร์ซิตี้ ซึ่งภายในมีร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งบันเทิงมากมาย และให้ท่านถ่ายรูปกับกันดั้มตัวใหม่ RX-0 Unicorn ขนาดเท่าของจริง ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ในบริเวณห้าง ก็จะมีร้านค้าสำหรับคอกันดั้ม อย่างกันดั้มคาเฟ่ ห้างสรรพสินค้าอควาซิตี้ ห้างดังของย่านนี้ที่ไม่ควรพลาด เพราะทั้งร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าต่าง ๆ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และโรงภาพยนตร์ที่มีถึง 13 โรงด้วยกัน จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่ชั้น 5 เป็น ราเม็ง ฟู๊ด ทีมพาร์ค รวบรวมราเม็งชนิดต่าง ๆ จากทั่วประเทศญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่ สำคัญด้านหน้าของห้างสรรพสินค้าสามารถมองเห็นสะพานสายรุ้งได้อย่างชัดเจน
เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินฮาเนดะ
ทำการเช็คอิน และโหลดกระเป๋าสัมภาระ เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
วันที่ 7

โตเกียว (สนามบินฮาเนดะ) – กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรรภูมิ) (TG661 00.20-04.50)

00.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 661 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
04.50 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
มื้ออาหาร
วันที่ เช้า กลางวัน ค่ำ
1
2
3
4
5
6
7
รายละเอียดและเงื่อนไข

เงื่อนไขการจอง การชำระเงิน และการยกเลิก

 การทำการจอง และ การชำระค่าบริการ

      1.1 กรุณาชำระมัดจำ ท่านละ 25,000 บาท ภายใน 36 ชม หลังจากทำการจอง พร้อมจัดส่งเอกสารการจองมายังบริษัทฯ

     กรณีลูกค้าทำการจองก่อนวันเดินทางภายใน 20 วัน ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าทัวร์เต็มจำนวน

     โดยทุกการจองจะได้รับการยืนยันสิทธิ์สำรองที่นั่ง เมื่อมีการชำระมัดจำ เท่านั้น

      1.2 กรุณาชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ 25 วัน ก่อนออกเดินทาง หากไม่ชำระตามที่กำหนด ทางบริษัทฯถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ ไม่มีเงื่อนไขใดๆ และขออนุญาตให้สิทธิ์การจองแก่ลูกค้าท่านอื่นที่อยู่ลำดับถัดไป 

     1.3 เมื่อชำระเงินในแต่ละส่วนแล้ว โปรดส่งสำเนาการโอนเงิน พร้อมระบุชื่อพนักงานขายมาทางอีเมลล์ พร้อมทั้งส่งรายชื่อสำรองที่นั่ง ผู้เดินทางต้องส่งสำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) โดยเซ็นต์ชื่อพร้อมยืนยันว่า ต้องการเดินทางท่องเที่ยวทริปใด วันที่ใด ไปกับใครบ้าง, เบอร์โทร // หากไม่ส่งสำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) มาให้ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบค่าเสียหาย อันเกิดจากความผิดพลาดจากการสะกด ชื่อ-นามสกุล และอื่นๆ เพื่อใช้ในการจองตั๋วเครื่องบิน

**  กรุณาตรวจสอบหนังสือเดินทาง (Passport) ของผู้เดินทาง จะต้องมีอายุคงเหลือ ณ วันเดินทางไป-กลับมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป และเหลือหน้ากระดาษว่างอย่างต่ำ 2 หน้าหากไม่มั่นใจโปรดสอบถาม

**การติดต่อประสานงานกับทางบริษัท เช่น แฟกซ์  อีเมลล์ หรือจดหมาย ขอความกรุณาต้องทำในวันเวลาทำการของทาง บริษัท ดังนี้ วันจันทร์ ถึงศุกร์ เวลา 08.30 น. – 17.30 น.เท่านั้น นอกจากวันเวลาดังกล่าวและวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่รัฐบาลประกาศในปีนั้นๆถือว่าเป็นวันหยุดทำการของทางบริษัท

** กรุณาศึกษารายการทัวร์ และเงื่อนไขการให้บริการโดยละเอียด เพื่อผลประโยชน์สูงสุดในการใช้บริการของท่าน เนื่องจาก เมื่อท่านชำระเงินครบจำนวนหรือมัดจำบางส่วนแล้ว ทางบริษัทฯ ถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขการบริการและข้อตกลงต่างๆที่ได้ ระบุไว้ทั้งหมดในโปรแกรมการเดินทางนั้นๆ

 

เงื่อนไขการยกเลิก

กรณีที่นักท่องเที่ยวหรือตัวแทนจำหน่ายต้องการขอยกเลิกการเดินทาง หรือเลื่อนการเดินทาง นักท่องเที่ยวหรือตัวแทนจำหน่าย(ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมลล์ หรือ มาเซ็นเอกสารการยกเลิกที่บริษัท อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อเป็นการแจ้งยกเลิกกับทางบริษัทอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร (ทางบริษัทไม่ขอรับยกเลิกการจอง ผ่านทางโทรศัพท์ไม่ว่ากรณีใดๆ)

กรณีนักท่องเที่ยวหรือตัวแทนจำหน่าย ต้องการขอรับเงินค่าบริการคืน นักท่องเที่ยวหรือตัวแทนจำหน่าย (ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมลล์ หรือ มาเซ็นเอกสารการขอรับเงินคืนที่บริษัท อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อทำเรื่องขอรับเงินค่าบริการคืน โดยแนบหนังสือมอบอำนาจพร้อมหลักฐานประกอบการมอบอำนาจ หลักฐานการชำระเงินค่าบริการต่างๆ และหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ต้องการให้นำเงินเข้าให้ครบถ้วน โดยมีเงื่อนไขการคืนเงินค่าบริการ ตาม ประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดอัตราการจ่ายเงินค่าบริการคืนให้แก่นักท่องเที่ยว พ.. 2563” ดังนี้

4.1 ยกเลิก ไม่น้อยกว่า 30 วันก่อนการเดินทาง (ไม่นับวันเดินทาง) คืนเงินค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ หลังจากหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงเพื่อการเตรียมการนำเที่ยว ทั้งหมด เช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่อง ค่าบริการแลนด์ ต่างประเทศ เป็นต้น”

4.2 ยกเลิก ไม่น้อยกว่า 15-29 วันก่อนเดินทาง (ไม่นับวันเดินทาง) คืนเงินร้อยละ 50 ของค่าทัวร์ทั้งหมด ยกเว้น ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงเพื่อการเตรียมการนำเที่ยว ทั้งหมด เช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่อง ค่าบริการแลนด์ ต่างประเทศ เป็นต้น”

4.3 ยกเลิก น้อยกว่า 15 วันก่อนการเดินทาง ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ ไม่คืนเงินค่าทัวร์ทั้งหมด

** การจ่ายเงินคืนแก่นักท่องเที่ยวตามข้อกำหนดด้านบน ซึ่งมีการหักเงินในบางส่วนนั้น เนื่องจากทางบริษัทมีค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายจริงเพื่อการเตรียมการจัดนำเที่ยวไปแล้ว เช่น การมัดจำที่นั่งบัตรโดยสารเครื่องบิน  การจองที่พัก  และ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ  เป็นต้น **

4.4 การยกเลิกเดินทางกับกรุ๊ปที่ออกเดินทางช่วงเทศกาลวันหยุด เช่น ปีใหม่, สงกรานต์ เป็นต้น บางสายการบินมีการการันตีมัดจำที่นั่งกับสายการบินและค่ามัดจำที่พัก รวมถึงเที่ยวบินพิเศษ เช่น CHARTER FLIGHT จะไม่มีการคืนเงินมัดจำ หรือ ค่าทัวร์ทั้งหมดที่ชำระแล้ว ไม่ว่ายกเลิกด้วยกรณีใดๆ

***ในกรณี มีเหตุให้ต้องยกเลิกการเดินทางที่บริษัทได้โฆษณาไว้  ซึ่งมิใช่ความผิดของบริษัทเอง  ทางบริษัทยินดีคืนเงินค่าบริการตามที่ลูกค้าได้ชำระมาแล้ว เต็มจำนวน โดยต้องมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนการเดินทาง โปรดอ่านข้อความให้ถี่ถ้วนก่อนการจองทัวร์ทุกครั้ง เพื่อประโยชน์แก่ตัวท่านเอง  ***

4.5 กรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองทั้งกรุงเทพฯ และในต่างประเทศ ปฏิเสธมิให้เดินทางออก หรือ เข้าประเทศที่ระบุ ไว้ในรายการเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าทัวร์ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

** สำคัญ !! บริษัททำธุรกิจเพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น ไม่สนับสนุนให้ลูกค้าเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นโดยผิดกฎหมายและในขั้นตอนการผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ทั้งไทยและญี่ปุ่น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่เท่านั้น ลูกค้าทุกท่านต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมืองด้วยตัวของท่านเอง ทางมัคคุเทศก์ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือใดๆได้ทั้งสิ้น **

4.6 เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ถ้าท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการและเงินมัดจำคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

 

เงื่อนไขอื่น ๆ

หมายเหตุ

1. จำนวนผู้ เดินทางต้องมีขั้นต่ำ 10 ท่าน ขึ้นไปต่อกรุ๊ป มิฉะนั้น ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดออกเดินทางและเลื่อนการเดินทางไปในวันอื่นต่อไป โดยทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า นอกจากผู้เดินทางทุกท่านยินดีที่จะชำระค่าบริการเพิ่มเพื่อให้คณะเดินทางได้ ทางเรายินดีที่จะประสานงานในการเดินทางตามประสงค์ให้ท่านต่อไป

2. ขอสงวนสิทธิ์การเก็บค่าน้ำมันและภาษีสนามบินทุกแห่งเพิ่ม หากสายการบินมีการปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง

3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเที่ยวบิน โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอันเนื่องจากสาเหตุต่างๆ

4. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, การประท้วง, การนัดหยุดงาน, การก่อการจลาจล, ภัยธรรมชาติ, โรคระบาด, การนำสิ่งของผิดกฎหมาย ซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัทฯ

5. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหาย อันเนื่องเกิดจากความประมาทของท่านอันเกิดจากการโจรกรรม และ อุบัติเหตุจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเอง

6.เมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด

7. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการโดยมิต้องแจ้งล่วงหน้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ การเมือง สายการบิน และราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุล (เยน) โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

8. อัตราค่าบริการนี้คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ณ วันที่ทางบริษัทเสนอราคา ดังนั้น ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับราคาค่าบริการเพิ่มขึ้น ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าภาษีเชื้อเพลิง ค่าประกันภัยสายการบิน การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินฯลฯ
9. การบริการของรถบัสนำเที่ยวญี่ปุ่น ตามกฏหมายประเทศญี่ปุ่น สามารถให้บริการวันละ 10 ชั่วโมง มิอาจเพิ่มเวลาได้ โดยมัคคุเทศก์และคนขับจะเป็นผู้บริหารเวลาตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในวันเดินทางนั้นๆ เป็นหลัก จึงขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนเวลาท่องเที่ยวตามสถานที่ในโปรแกรมการเดินทาง  อีกทั้งโปรแกรมอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของสภาพอากาศและฤดูกาลทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ

10. มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของทางบริษัท ไม่มีอำนาจในการให้คำสัญญาใดๆ แทนบริษัท เว้นแต่มีเอกสารลงนามโดยผู้มี อำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น

รายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทย

จากมาตรการยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทย ผู้ที่ประสงค์จะพำนักระยะสั้นในประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน ไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ หรือธุรกิจ และอาจจะมีการถูกตรวจสอบเอกสารในขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเป็นการยืนยันว่ามีคุณสมบัติในการเข้า ประเทศญี่ปุ่น

** เอกสารที่อาจจะต้องใช้ในการพิจารณาการอนุญาตให้เข้าประเทศ **

  1. ตั๋วเครื่องบินขาออก จากประเทศญี่ปุ่น
  2. เอกสารชื่อโรงแรมที่พักตลอดการเดินทาง (ทั้ง 2 อย่าง ทางบริษัทจะเป็นผู้จัดเตรียมให้กับลูกค้า แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกองตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่น อีกครั้ง)
  3. สิ่งที่ยืนยันว่าท่านสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างที่พำนักในประเทศญี่ปุ่น (เช่น เงินสด บัตรเครดิต เป็นต้น)
  4. ชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ระหว่างที่พำนักในประเทศญี่ปุ่น (เช่น คน รู้จัก โรงแรม และอื่นๆ) และกำหนดการเดินทางระหว่างที่พำนักในประเทศญี่ปุ่น

 

คุณสมบัติการเข้าประเทศญี่ปุ่น (สำหรับกรณีการเข้าประเทศญี่ปุ่นตามมาตรการยกเว้นวีซ่า)

  1. หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังมีอายุการใช้งานเหลืออยู่ ไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับถึงวันเดินทางกลับ
  2. กิจกรรมใดๆ ที่จะกระทำในประเทศญี่ปุ่นจะต้องไม่เป็นสิ่งที่ขัดต่อกฎหมาย และเข้าข่ายคุณสมบัติเพื่อการพำนักระยะสั้น
  3. ในขั้นตอนการขอเข้าประเทศ จะต้องระบุระยะเวลาการพำนักไม่เกิน 15 วัน
  4. เป็นผู้ที่ไม่มีประวัติการถูกส่งตัวกลับจากประเทศญี่ปุ่น หรือมิได้อยู่ในระยะเวลาของการถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ

และไม่เข้าข่ายคุณสมบัติที่อาจจะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ

ข้อแนะนำก่อนการเดินทาง

  1. กรุณาแยกของเหลว เจล สเปรย์ ที่จะนำติดตัวขึ้นเครื่องบิน ต้องมีขนาดบรรจุภัณฑ์ไม่เกิน 100 มิลลิลิตรต่อชิ้น และรวมกันทุกชิ้นไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร โดยแยกใส่ถุงพลาสติกใสซึ่งมีซิปล็อคปิดสนิท และสามารถนำออกมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจได้อย่างสะดวก ณ จุดเอ็กซ์เรย์ อนุญาตให้ถือได้ท่านละ 1 ใบเท่านั้น ถ้าสิ่งของดังกล่าวมีขนาดบรรจุภัณฑ์มากกว่าที่กำหนดจะต้องใส่กระเป๋าใบใหญ่ และฝากเจ้าหน้าที่โหลดใต้ท้องเครื่องบินเท่านั้น
  2. สิ่งของที่มีลักษณะคล้ายกับอาวุธ เช่น กรรไกรตัดเล็บ มีดพก แหนบ อุปกรณ์กีฬาฯ จะต้องใส่กระเป๋าใบใหญ่และฝากเจ้าหน้าที่โหลดใต้ท้องเครื่องบินเท่านั้น
  3. ประเทศญี่ปุ่น มีกฎหมายห้ามนำผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากพืช และเนื้อสัตว์ทุกชนิดเข้าประเทศ เช่น ผัก ผลไม้สด ไข่ เนื้อสัตว์ ไส้กรอกฯ เพื่อเป็นการป้องกันโรคติดต่อที่จะมาจากสิ่งเหล่านี้ หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบ จะต้องเสียค่าปรับในอัตราที่สูงมาก 
  1. ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และเอกสารต่างด้าวต่างๆ (ทางรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยกเลิกวีซ่าให้กับคนไทย ผู้ที่ประสงค์จะพำนักระยะสั้นใน ประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน **ถ้ากรณีทางรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศให้กลับมาใช้วีซ่า ผู้เดินทางจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในการขอวีซ่าตามที่ สถานทูตกำหนด)
  2. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือที่ระบุ อาทิเช่น ค่าอาหาร-เครื่องดื่ม นอกเหนือจากรายการ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ ค่ามินิบาร์ในห้องและค่าพาหนะต่างๆ ที่ไม่ได้ระบุในรายการ รวมทั้งค่าธรรมเนียมในกรณีกระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินนั้นๆ กำหนด หรือสัมภาระใหญ่เกินขนาดมาตรฐาน
  3. ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ภายหลังจากทางบริษัทฯ ได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ซึ่งลูกค้าต้องชำระส่วนต่างเพิ่ม
  4. ค่าทิปมัคคุเทศก์และคนขับรถ รวม 1,500 บาท /ทริป/ท่าน ซึ่งต้องชำระ ณ วันเดินทางที่สนามบินต้นทาง

สำหรับส่วนที่เพิ่มเติมแก่หัวหน้าทัวร์ที่ดูแลคณะจากเมืองไทย  ตามแต่ท่านจะเห็นสมควรขึ้นอยู่กับความพึงพอใจในบริการ

   5. ไม่รวมค่าตรวจ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง มีใบรับรองผลการตรวจเป็นภาษาอังกฤษตามแบบฟอร์มของทางญี่ปุ่น